นายสุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของกองทุนเปิด I-TEP1 ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 10 วันทำการนี้ ถือเป็นผลสำเร็จสำคัญจากการมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมจัดการลงทุน บลจ.อินโนเทค ในการคัดเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถัน (Stock Selection) และการจับจังหวะตลาดหุ้น (Market Timing) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและเหมาะสมให้แก่ลูกค้า โดยก่อนหน้านี้ บลจ.อินโนเทค มีมุมมองสวนทางกับกูรูในตลาดหุ้น โดยคาดการณ์ไว้ว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากแรงหนุนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ การค้นพบวัคซีน กำไรสุทธิต่อหุ้นซึ่งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายปี ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นตามปัจจัยต่างๆตามที่ได้คาดการณ์ไว้ นายอนพัทย์ วนัสชัยพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะการกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยไปแล้วกว่าหลายแสนล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญของตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป น่าจะเป็นผลบวกจากการค้นพบวัคซีนโควิด19 ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากต่อไป ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น