"LHBLUESKY" จังหวะดีในการลงทุนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ
อย่างที่ทราบกันดีว่าปี 2024 เป็นปีของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ว่า FED จะเริ่มประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งปีหลัง และในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่สูง ตราสารหนี้จะมีราคาไม่แพง จึงส่งผลให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้มีความโดดเด่น และเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนตราสารหนี้เพื่อรอโอกาสทำกำไรในช่วงดอกเบี้ยขาลง
“LH BLUE SKY INCOME FUND (LHBLUESKY) “เป็นอีกหนี่งทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ ให้นักลงทุนสามารถสร้างสมดุลพอร์ตและใช้ลงทุนคู่กับกองทุนหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงพอร์ตลงทุนในช่วงสภาวะตลาดผันผวน อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยของตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์ที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งความเป็นจริงในตอนนี้การสร้างผลตอบแทนในต่างประเทศสูงมากกว่าในประเทศ ถ้าหากเรายัง Home Bias กันอยู่ก็อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสที่ดีในการลงทุน ฉะนั้นแล้วทำไมเราไม่เลือกกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศบ้าง เพราะยิ่งเราไปลงทุนต่างประเทศในช่วงที่สถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนก็จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเราเลือกกองทุนที่ Unhedge ด้วยแล้วก็จะทำให้เราได้ผลตอบแทนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการ Hedging และได้กำไรจากค่าเงินอ่อนตัวอีกด้วย แต่ในทางกลับกันก็อาจจะได้รับความเสี่ยงเรื่องของสินทรัพย์ที่ลงทุนและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนในตอนที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น
นโยบายการลงทุน
กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ และ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟตราสารหนี้ต่างประเทศ ซึ่งกองทุนสามารถกระจายการลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนต่างประเทศ ในระดับ Investment Grade
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ LHBLUESKY
- ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ (ความเสี่ยงระดับ 4)
- กองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนทั่วโลกในระดับ Investment Grade
- อายุของตราสารเพียง 2 – 5 ปี
- โอกาสเพิ่มผลตอบแทนในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอนและดอกเบี้ยขาลง
- กลยุทธการบริหารกองทุนเป็นแบบ Active ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนกองทุนได้ตามสภาวะตลาด เพราะเป็นกองทุนประเภท Fund of Funds
- นักลงทุนเลือกลงทุนได้ทั้งชนิดสะสมมูลค่า (LHBLUESKY-A) และชนิดจ่ายเงินปันผล (LHBLUESKY-D)
ทำไมต้องลงทุนใน LHBLUESKY
- เศรษฐกิจในประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมาเติบโตช้า ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทางการเมือง หรือเศรษฐกิจ ส่งผลให้การลงทุนในประเทศขาดความเชื่อมั่น จึงทำให้การลงทุนในต่างประเทศให้ผลตอบแทนดีและดูน่าสนใจกว่า และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
- ปีที่ผ่านมา FED ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 22 ปี ทำให้ผลตอบแทนตราสารหนี้เพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดจากผลตอบแทนของพันธบัตร U.S. เมื่อเทียบกับพันธบัตรของไทยแล้วถือว่าสูงมาก ประกอบกับเมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มเป็นขาลงหลังจากกลางปี 2024 เป็นต้นไป จึงมองว่า ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะสร้างผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อีก
- แนวโน้มค่าเงินตอนนี้น่าจะแข็งเกินความเป็นจริง หากตัดสินไม่ Hedging จะมีโอกาสได้ประโยชน์ 2 ทาง คือ กำไรจากค่าเงินอ่อนตัว และ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการต้อง Hedging ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3% เนื่องจากกองทุนป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนต่ำ (เพียง 0.40%) ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับถึงนักลงทุนอย่างเต็มที่
- ฟรี ! ค่าธรรมเนียม front end fee ในช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 19 – 27 มีนาคม 2567
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่