Thailand Web Stat

5 ขั้นตอน 8 ความท้าทาย ของการลงทุน

การลงทุนที่ดีก็เหมือนกับการสร้างบ้าน ที่ถูกใจซักหลังหนึ่ง ก่อนจะเริ่มสร้างบ้านเราจะต้องรู้งบ ดูว่าอยากได้บ้านแบบไหน จะเลือกรับเหมากับใครดี พอสร้างเสร็จแล้วก็ยังต้องดูแลต่อว่าบ้านของเราเป็นอย่างไร แล้วก็ต้องคอยสรุปค่าใช้จ่ายการดูแลรายปี

การลงทุนก็เช่นกัน อยากสร้างเงินในอนาคตสักก้อนหนึ่ง ฝันไปก่อนว่าอยากได้เงิน 50 ล้าน แต่มีเงินลงทุนแค่ 5 ล้าน ก็คงจะไปไม่ถึงเป้าหมาย แล้วจะลงยังไง แบ่งสัดส่วนแบบไหน ลงทุนในกองทุนอะไร ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเป็นที่รู้กัน ผลตอบแทนสูงแต่ความเสี่ยงต่ำก็คงจะไม่มี แล้วความเสี่ยงระดับไหนที่เหมาะกับเรา เพราะฉะนั้นการลงทุนเองก็ต้องวางแผนให้ดีไม่ต่างกับการสร้างบ้าน


ขั้นตอนที่ 1
ตั้งเป้าหมาย และค้นพบตัวเอง
นักลงทุนหลายๆ คนคงมีความต้องการคล้ายๆ กัน คือต้องการให้เงินเติบโตเพื่อไปถึงเป้าหมาย แต่ว่าเราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร ? สมมุติว่าเราอยากจะสร้างเงินล้านก้อนแรก เราจะสร้างเงินก้อนนั้นได้อย่างไร จะต้องลงเงินเดือนละเท่าไหร่ ต้องลงทุนนานแค่ไหน และต้องมีกำไรต่อปีเท่าไหร่ ไม่ต่างกับการสร้างบ้านที่ต้องมีการออกแบบบ้าน การตั้งเป้าหมายการลงทุนเองก็ต้องมีการออกแบบแผนเหมือนกัน
แต่ว่า การลงทุนให้ถึงเป้าหมายก็ต้องใช้เวลา และระหว่างทางพอร์ตของเราก็อาจจะขาดทุนเป็นสีแดงบ้าง เพราะฉะนั้นนักลงทุนจำเป็นต้องรู้ว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน หรือ ที่เราเรียกกันว่า Risk Comfort Zone ความสบายใจที่ยังสามารถถือพอร์ตได้แม้จะขาดทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความจำเป็นที่จะต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุน


ขั้นตอนที่ 2
วางกลยุทธก่อนลงทุน
พอได้เป้าหมายที่ต้องการแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาลงเงิน แต่ว่าเราจะลงในการลงทุนประเภทไหนบ้างล่ะเพื่อให้ถึงเป้าหมาย ? ก่อนจะเริ่มสร้างบ้านสวยๆ สักหลัง เราก็จะต้องรู้ก่อนว่าจะลงเงินกับค่าอะไรเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นค่าไม้ ค่าปูน หรือค่าคนงาน การสร้างพอร์ตการลงทุนก็เช่นกัน เราเรียกการจัดสัดส่วนแบบนี้ว่า Strategic Asset Allocation หรือการจัดสัดส่วนเงินที่มีอยู่ตามประเภทการลงทุนต่างๆ เพื่อให้เกิดพอร์ตการลงทุนที่ถึงเป้าหมาย และพร้อมรับความเสี่ยงในตลาด ต้องมีการจัดสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่มากพอจะถึงเป้าหมาย และมีความเสี่ยงที่ไม่เกิน Risk Comfort Zone ของเรา

แต่ว่า ถึงแม้จะรู้แล้วก็ตามว่าจะลงเงินกับส่วนไหนบ้าง แต่ก็ยังจะต้องรู้อีกเช่นกันว่า จะลงทุนกับใครดี การลงทุนมีมากมายหลายประเภท ในแต่ละประเภทก็สามารถลงทุนได้กับหลายที่ จะลงทุนในหุ้น ก็ต้องเลือกอีกว่าจะลงในอุตสาหกรรมไหน จะลงทุนในกองทุน ก็มีหลายบลจ. ซึ่งแต่ละที่ก็เก่งไม่เหมือนกัน การเลือกจัดสัดส่วนแบบนี้เรียกว่า Tactical Asset Allocation
เป็นการเลือกลงเงินตามที่ได้จัดสัดส่วนตามประเภทการลงทุนไว้ในกองทุน หรือบริษัทที่เราเชื่อมั่น ไม่ต่างกับการสร้างบ้านที่เราจะต้องซื้อปูน ซื้อไม้ จากที่ๆ เราไว้ใจ และซื้อเฟอนิเจอร์จากที่ๆ ออกแบบถูกใจเรา


ขั้นตอนที่ 3
เริ่มสร้างพอร์ตลงทุน 
เมื่อเรามีทุกอย่างพร้อมสำหรับการลงทุนแล้ว เงินก็มี แผนก็มี กลยุทธ์ก็มีเหมือนกัน แล้วเราจะลงทุนกับที่ไหนดี ?  การสร้างบ้าน ต่อให้มีเงินพร้อม วัสดุพร้อม เฟอร์นิเจอพร้อม แต่เราก็สร้างบ้านเองไม่ได้ ต้องไปจ้างบริษัทรับเหมามาสร้างให้เรา ถ้าโชคดีก็เสร็จเร็ว ถ้าโชคร้าย คนงานอู้งานบ้าง ทำงานพลาดบ้าง บ้านก็เสร็จช้า เงินก็ต้องเสียเพิ่ม การสร้างพอร์ตลงทุนก็เช่นกัน  ต่อให้คิดในใจไว้หมดแล้วว่าจะซื้ออะไรเท่าไหร่ ซื้อกับใครบ้าง แต่พอจะซื้อเข้าจริงๆ เจอเซลส์ปั่นหัว Push Product ให้เราขึ้นมา หลงเชื่อตามคารมเค้าไปเพราะคิดว่าจะดีขึ้น สุดท้ายกลายเป็นว่าพอร์ตเสี่ยงเกินความจำเป็น ถึงเป้าหมายก็ช้ากว่าที่วางแผน เผลอๆ ซ้ำร้ายพลอยขาดทุน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกที่ๆ จะทำให้เราได้พอร์ตที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด


ขั้นตอนที่ 4
ติดตาม และควบคุมพอร์ตการลงทุน
หลังจากเริ่มลงทุนแล้วก็มาถึงขั้นตอนการดูแล ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องคอยดูว่าปลวกกินไหม หลังคารั่วรึเปล่า กับพอร์ตการลงทุนก็มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พอร์ตก็เปลี่ยนไปตามตลาด หรือเวลาผ่านไปเป้าหมายการลงทุนของเราก็อาจจะเปลี่ยนไป  มีเงินมากขึ้นก็เริ่มอยากมีเงินใช้ในอนาคตมากขึ้น ตลาดเปลี่ยนไปไหมเราก็ควรรู้ พอร์ตเปลี่ยนไปอย่างไรเราก็ต้องตาม ความต้องการยังเหมือนเดิมไหมเราก็ต้องสนใจ การลงทุนที่ดีจึงต้องคอย Alert ไว้กับพอร์ต และเป้าหมายของเราเสมอ
หลังจากเกิดความปลี่ยนแปลงแล้วเราจะทำอย่างไร ? ถ้าบ้านของเรามีการ Renovate ให้กลับมาสวยได้ พอร์ตการลงทุนของเราก็สามารถทำการ Rebalance ได้เหมือนกัน นั่นก็คือการปรับสัดส่วนสินทรัพย์การลงทุนให้กลับมาเหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายในการลงทุนอีกครั้ง


ขั้นตอนที่ 5
สรุปผลการลงทุน
ขั้นตอนสุดท้ายนับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้  ซึ่งก็คือ การคอยสรุปผลการลงทุนตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ นั่นเอง  เช่น เราลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี แล้วในปีนี้เราสามารถลดหย่อนภาษีไปได้เท่าไหร่บ้าง หรือ กองทุน LTF RMF ที่เราซื้อมาจะสามารถขายได้เมื่อไหร่ พอร์ตการลงทุนของเรามีการจ่ายปันผลไหม รวมแล้วปีนี้เรามีการซื้อขายไปเท่าไหร่ และ พอร์ตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มีกำไรกี่เปอร์เซ็นต์ รวมแล้วเป็นเงินเท่าไหร่ สัดส่วนเปลี่ยนแปลงรึเปล่า
เห็นมั้ยครับ ว่าการลงทุนที่ดีก็เหมือนกับการสร้างบ้านที่มั่นคงในฝัน คงจะดีไม่น้อยถ้าเรามีคนมาช่วยตั้งเป้าหมาย และจัดสัดส่วน เลือกกองทุนที่เหมาะกับเราเหมือนมี Architecture มาช่วยดูงบ และ ออกแบบบ้านตามใจเรา สถานที่ซื้อกองทุนที่สามารถสร้างพอร์ตตามที่อยากได้ เหมือนมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เราไว้ใจเหมือนคนในครอบครัว มีคนมาช่วยเตือนเราตลอดเมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง หรือพอร์ตการลงทุนเปลี่ยนไป เหมือนมีช่างประจำบ้านที่คอยเช็คให้ตลอด และ คอย Rebalance ให้กลับมาเหมือนเดิมเหมือนการ Renovate บ้านให้กลับมาสวยอีกครั้ง แถมยังคอยรายงานประจำปีว่าพอร์ตของเราเป็นอย่างไรบ้าง
Wealth Advice ให้คำปรึกษาจนถึงเป้าหมาย
– ช่วยจัดสัดส่วนการลงทุนตามเป้าหมาย และความเสี่ยงของคุณ
– แนะนำกองทุนที่ใช่ที่สุด ตามความต้องการของคุณ
– ซื้อ – ขาย ได้ทันทีหลังการวางแผน และเลือกองทุนเสร็จสิ้น
– คอยเตือนเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงภายในตลาด หรือพอร์ตการลงทุน
– Rebalance เพื่อให้พอร์ตคงอยู่ในเป้าหมาย และความเสี่ยงที่คาดไว้
– สรุปผลประจำปี เพื่อสรุปผลการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษี การจ่ายปันผล การซื้อ-ขายที่เกิดขึ้นในปีนั้นๆ และการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ใช้บริการได้แล้วที่  คลิก