เมื่อพูดถึง การบริหารความมั่งคั่ง หลายคนคงนึกถึงนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีเม็ดเงินในการลงทุนจำนวนมหาศาล แต่ปัจจุบันความมั่งคั่งจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถแตะต้องได้ และทำได้ด้วยตัวด้วยเอง

WealthMagik เว็บไซต์บริการเครื่องมือบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล (Private Wealth) ที่ช่วยคำนวณสถานภาพการเงินแบบส่วนตัวด้วยตัวเอง พร้อมข้อมูลกองทุนและเครื่องมือติดตามพร้อมลงทุน ตามขั้นตอนการบริหารความมั่งคั่ง ที่เปิดให้ใช้บริการฟรีเข้าสู่ปีที่ 7

        ล่าสุด WealthMagik เพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนรายย่อย ด้วยเครื่องมือระดับ “พรีเมี่ยม” ที่ช่วยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ติดตามความเคลื่อนไหวของพอร์ตหลังการลงทุน แค่ปลายนิ้ว ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง ที่เรียกว่า Wealth Service

        ภายใต้แนวคิด ‘Crafting lifelong wealth for you’ ที่ไม่ใช่เพียงมุ่งสร้างความมั่งคั่ง แต่ค่อยๆสร้างสรรค์เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง ขั้นตอนต่อขั้นตอนด้วยความประณีต ไปตลอดชีวิตของผู้ใช้บริการ

        เครื่องมือดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ดำเนินโครงการ “Wealth Advice for All” เพื่อสนับสนุนให้มีผู้บริการแนะนำและวางแผนทางการเงิน (wealth advice) โดยมีเป้าหมายให้คนที่มีเงินเก็บเพื่อการลงทุนมีความรู้ มีเครื่องมือตัวช่วย และช่องทางที่สะดวกในการเข้าถึงตลาดทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนสำหรับใช้เงินระยะยาว

        ชัยวัฒน์ เมธีวีรังสรรค์ Managing Director WMSL กล่าวว่า แนวคิดและหลักการบริหารพอร์ต ที่ Wealth Service กำลังจะเริ่มให้บริการนี้ มีมาตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว และไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงการลงทุน แต่ Wealth Service จะสร้างในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น คือเครื่องมือที่ทำให้นักลงทุนรายย่อย หรือบุคคลทั่วไปสามารถบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตนเอง

        ที่ผ่านมาบริการบริหารความมั่งคั่ง เป็นบริการที่มีให้เฉพาะบุคคลแบบ Case by Case โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนที่มีมูลค่าสินทรัพย์การลงทุน 30-50 ล้านบาท หรือนักลงทุนที่มีการลงทุนสูง จึงจะได้รับบริการบริหารความมั่งคั่งเหล่านี้จากบริษัทจัดการ

 “เราเอาหลักการและแนวคิดนี้ มาพัฒนาเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่รายย่อยก็มิสิทธิ์ใช้ได้ง่าย ไม่ซับซ้อน นักลงทุนสามารถใช้ได้เอง เป็นการ Break through ระบบเดิม”

Wealth Service เป็นกลุ่มบริการที่พัฒนาให้มีความพรีเมี่ยมขึ้น จาก WealthMagik ที่บริการเรื่องข้อมูลและเครื่องมือสำหรับนักลงทุนที่ใช้สำหรับคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่เล็งเห็นว่า การบริการบริหารความมั่งคั่งเหล่านี้ สามารถนำมาปรับแต่ง ผสมผสานกับเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม นำมารวมกลุ่มทำให้นักลงทุนรายย่อยได้ใช้ในราคาที่เหมาะสม

บริการของ Wealth Service จะทำให้นักลงทุนข้าใจตัวเองมากขึ้น เป็นบริการเต็มรูปแบบ ให้บริการครบวงจรในเรื่องของการลงทุน ที่จะช่วยเติมเต็มหลังจากที่ลงทุนไปแล้ว ว่าการลงทุนของตัวเองมีประสิทธิภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพ

ธรรมชาติของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อย หนึ่งปัญหาที่นักลงทุนต้องพบ คือหลังจากที่สร้างพอร์ตหรือลงทุนไปแล้ว เมื่อระยะเวลาผ่านไป พอร์ตจะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากที่มีการออกแบบไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อเวลาผ่านไป ตลาดเปลี่ยนไป มูลค่าในสิ่งที่ลงทุนในแต่ละกองทุนก็เปลี่ยนตามไปด้วย

ทำให้พอร์ตมีโครงสร้าง รูปร่าง ผลตอบแทน ความเสี่ยง คลาดเคลื่อนไปจากที่ตั้งต้นไว้ ทำให้เกิดประเด็นที่ว่า “แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าพอร์ตของคุณยังมีประสิทธิภาพอยู่เหมือนเดิม? เป็นเหมือนสิ่งที่คุณคาดไว้ในตอนต้น คืออยู่ในระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ อยู่ในระดับผลตอบแทนที่เป็นไปได้”

Wealth Service จึงเข้ามาตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ ในรูปแบบของบริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจร ที่เน้นให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย สามารถบริหารจัดการพอร์ตให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น สามารถใช้ประโยชน์ในแง่ของสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงให้เกิดความสมดุลได้

Wealth Service จะประกอบไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่เป็นตัวช่วยนักลงทุนบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของตนเองในทุกมิติ  ด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital Wealth Services)

สำหรับบริการแรก ที่จะบรรดานักลงทุนสามารถเริ่มใช้ได้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 นี้ีคือ บริการ Wealth Health Check ตรวจสุขภาพพอร์ตการลงทุนผ่านกองทุนรวม อันเสมือนการตรวจสุขภาพของมนุษย์ ที่ต้องมีการเฝ้าระวังโรค ติดตามความบกพร่องต่างๆ และปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ

การตรวจเช็คสุขภาพพอร์ตการลงทุน จะทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจสถานะของตัวเอง และสามารถประเมินศักยภาพการลงทุน เพื่อผลตอบแทนที่แข็งแรงขึ้น ฟิตพอดีกับความเสี่ยง จนนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ในอนาคตจะมี บริการปรับสมดุลพอร์ต หรือ Rebalance พอร์ต ที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์การปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม และเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มากที่สุด เนื่องจากในอดีตการปรับพอร์ตเป็นบริการเฉพาะบุคคลที่มีค่าบริการสูง และต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์อย่างน้อย 2 วันขึ้นไป จึงจะสามารถส่งผลลัพธ์กลับมาให้นักลงทุนเพื่อดำเนินการต่อได้ ซึ่งเครื่องมือส่วนนี้จะเข้ามาช่วยในการปรับสมดุลพอร์ตได้เพียงชั่วคลิ๊กเม้าส์เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มบริการที่เรียกว่า performance attribution analysis ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ผลตอบแทนส่วนเกินในแต่ละกลุ่มก้อนการลงทุน ออกมาให้เห็นว่าส่วนเกินนั้นๆที่ได้ของพอร์ต มีแหล่งที่มาจากไหนบ้าง เช่น จากการจัดสรรน้ำหนักกลุ่มสินทรัพย์การลงทุน และ/หรือจากการเลือกสรรสินทรัพย์การลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม เหมือนกับเป็นการประเมินว่าเราเก่งหรือไม่ ในแง่มุมใด

จุดเด่นของบริการ Wealth Service คือ การเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย นักลงทุนสามารถเรียนรู้และทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังมีค่าบริการที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับการให้บริการ ลักษณะเดียวกันในอดีต

“บริการของเราเราคิดค่าบริการหลักร้อย ไม่แพง ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมากกว่าก็คือ พอตรวจสุขภาพรู้สถานะตัวเอง จะปรับปรุงยังไง คือมันมีมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเขาเอง ว่าจะเพิ่มผลตอบแทนยังไงในความเสี่ยงเท่าเดิม หรือภายใต้ความเสี่ยง ผลตอบแทนเท่าเดิมจะลดความเสี่ยงยังไง ผลประโยชน์นี้คือที่จะย้อนกลับเข้ามาหานักลงทุนทั้งหมด” ชัยวัฒน์ กล่าว  

ที่มา : Money 2 Know