ทั้งนี้ หลังจากที่กฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ SSF และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ในรายละเอียด ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามลำดับแล้ว ในส่วนของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จะเตรียมจัดทำประกาศเกี่ยวกับระบบในการขายคืนหน่วยลงทุนเพื่อขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ในลำดับถัดไป เพื่อให้ บลจ. มีระบบงานที่เป็นมาตรฐานและสอดคล้องกับเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
สำหรับผู้ลงทุนสามารถลงทุนใน SSF โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญและกองทุนเกษียณอื่น ๆ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท นอกจากนี้ ไม่ได้กำหนดให้ต้องลงทุนทุกปีแต่อย่างใด อีกทั้ง SSF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และทรัพย์สินทางเลือก จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เริ่มต้นวัยทำงานและประชาชนทั่วไปที่ต้องการเริ่มสะสมเงินเพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยสามารถเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนต่าง ๆ ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้
ที่มา: ข่าว ก.ล.ต. วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563 ฉบับที่ 41 / 2563