การตั้งค่าคุกกี้

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา

คุกกี้เป็นไฟล์เล็กๆ ใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูล โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของลูกค้า ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ลูกค้าเลือกใช้ ในขณะที่ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ลูกค้าสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้ โดยการปรับการตั้งค่าในเบราว์เซอร์... 

Always Active

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ทุกส่วน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกจัดเก็บและลบออกหลังจากการท่องเว็บไซต์ของลูกค้า

คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำลูกค้าเมื่อลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีกครั้ง สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ จัดเนื้อหาที่เหมาะสำหรับลูกค้าได้ ทักทายลูกค้าด้วยชื่อ และจดจำค่าที่ลูกค้าเลือกได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดผลการทำงาน โดยประมวลผลจาก จำนวนหน้าที่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะกลุ่มของผู้เยี่ยมชม โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และบริษัทฯ จะนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการ และการใช้งานของผู้เยี่ยมชมให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและสนใจของลูกค้า ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า

กฎหมายใหม่กับ LTF และ RMF


        อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ กับกฎหมายใหม่ที่ออกมาในเรื่องของการปรับเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีจากการซื้อ LTF และ RMF เพราะกฎหมายใหม่ที่เปลี่ยนนั้น ปรับเงื่อนไขทั้ง LTF และ RMF จาก

        “ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้” มาเป็น “ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ ที่ต้องเสียภาษี

        และ ส่วนของ RMF ในเรื่องของลงทุน ขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ มาเป็น ขั้นต่ำ 3% ของเงินได้ ที่ต้องเสียภาษี

        สรุปว่าเปลี่ยนจาก เงินได้ เป็น เงินได้ที่ต้องเสียภาษี หมายถึงว่า รายได้ส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ไม่ต้องนำมาคำนวณนะ ส่วนเงื่อนไขอื่น ๆ ยังคงเดิมครับ และสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ปกติแล้วตอนคิดเรื่องภาษีนำเฉพาะเรื่องของเงินเดือนที่ได้รับมาคิด บอกได้เลยว่า “ไม่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่” นี้นะครับ สบายใจได้ ทีนี้คำถามก็คือ แล้วรายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีมีอะไรกันบ้าง ทางกรมสรรพากรได้มีข้อมูลนี้ไว้แล้วครับ สามารถเข้าไปดูได้ที่

        http://www.rd.go.th/publish/554.0.html

        และคำถามต่อมา คือทำไมต้องมีกฎหมายนี้ขึ้นมา เนื่องจากเดิมที่เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องของภาษีที่ต้องเสียจากเงินได้ที่ได้รับต่อปี โดยให้ลงทุนใน LTF และ RMF ได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ (RMF จะมีเงื่อนไขอื่นประกอบด้วย) ก็จะมีบางคนที่มีรายได้อื่น ๆ เสริมขึ้นมา ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ทำให้เงินได้รวมมากขึ้น และลงทุนเพื่อลดหย่อนให้มากขึ้นนั่นเอง เช่น

        นาย A มีรายได้ 1,000,000 บาท ลงทุน LTF ได้ 15% ของเงินได้ คือลงทุนได้ 150,000 บาท

        นาย B มีรายได้ 1,000,000 บาท แต่มีรายได้เพิ่มเติมที่ได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้วอีก 1,000,000 บาท ทำได้รายได้รวมเป็น 2,000,000 บาท คือลงทุนได้ 300,000 บาท

        แต่ด้วยกฎหมายใหม่นี้ จะทำให้นาย A และ นาย B สามารถลงทุนได้สูงสุดเท่ากันครับ ^^

        ทีนี้เรามาลุ้นกฎหมายที่จะเกี่ยวกับ LTF หลังปีพ.ศ. 2559 กันต่อนะครับ โชคดีในการลงทุนครับ

แล้วคุณจะรู้ว่าโอกาสที่คุณจะมั่งคั่งนั้นอยู่แค่ปลายนิ้วสัมผัส

WEALTHMAGIK
WEALTH FOR THE MASS