เลือกกองทุนให้ดีดู Standard Deviation และ Sharpe Ratio ให้เป็น
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจในการเลือกกองทุนก็คือ ผลตอบแทน แต่การดูผลตอบแทนเพียงแค่อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จะต้องพิจารณาความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย แต่ค่าความเสี่ยงกองทุนมีทั้งค่า Standard Deviation และ Sharpe Ratio ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันบ่อย ๆ แล้วเราจะอ่านค่าและแปลความหมายยังไง WealthMagik สรุปไว้ในบทความนี้แล้ว
Standard Deviation (SD)
Sharpe Ratio
ผลตอบแทนของกองทุนรวมเทียบกับอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยปรับด้วยค่า SD ของกองทุนรวม หรือที่เรียกกันว่า “ผลตอบแทนต่อ 1 หน่วยความเสี่ยง” โดยทั่วไป Sharpe Ratio ที่มีค่ามากกว่า 1 ถือว่ามีประสิทธิภาพการลงทุนที่ดี ถ้าหากกองทุนมีค่า Sharpe Ratio สูงแสดงว่าผลตอบแทนของกองทุนนั้นดีกว่ากองทุนอื่นๆเมื่อเทียบกันในระดับ 1 หน่วยความเสี่ยง (หรือเรียกได้ว่าค่า Sharpe Ratio ยิ่งสูงยิ่งดี) แต่ควรเปรียบเทียบกองทุนรวมประเภทเดียวกัน มีลักษณะคล้ายๆกัน ถึงจะเปรียบเทียบแล้วเห็นผลมากที่สุด
- กองทุน A ให้ผลตอบแทน1 ปี อยู่ที่ 65.42 % ค่าความเสี่ยงอยู่ที่ 28.13 % และ Sharp Ratio อยู่ที่ 2.22
- กองทุน B ให้ผลตอบแทน1 ปี อยู่ที่ 52.84 % ค่าความเสี่ยงอยู่ที่ 19.35 % และ Sharp Ratio อยู่ที่ 2.86
ถ้าหากพิจารณาทั้ง 2 กองทุนแล้ว กองทุน B ดูน่าสนใจกว่ากองทุน A ถึงแม้ว่ากองทุน B จะให้ผลตอบแทนน้อยกว่ากองทุนA แต่ค่าความเสี่ยง(SD) ของกองทุน B น้อยกว่า แสดงว่ามีความผันผวนของผลตอบแทนน้อย และมีค่า Sharp Ratio ที่สูงกว่ากองทุน A แสดงว่าผลตอบแทนของกองทุน B ดีกว่ากองทุน A เมื่อเทียบกันในระดับ 1 หน่วยความเสี่ยง
จะเห็นได้ว่าการนำ Standard Deviation และ Sharpe Ratio มาใช้พิจารณาเป็นทางเลือกในการลงทุนนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้เราไม่เลือกมองผลตอบแทนเพียงแค่อย่างเดียว จนบางทีอาจจะลืมไปว่าต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่อาจจะไม่คุ้มค่า
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่