Thailand Web Stat

ลดดอกเบี้ยด้วยรีไฟแนนซ์คอนโด ภาระหมดไว สมัครไม่ยาก

รีไฟแนนซ์บ้าน
คอนโดมิเนียม หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้คนนิยมจับตามองและจองความเป็นเจ้าของอยู่เรื่อยมา ด้วยความที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ถือได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งมอบความได้เปรียบสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่จริง ๆ
แต่หนึ่งในโจทย์หินของการเป็นเจ้าของคอนโดนั้น คือ ราคาที่สูงระฟ้าไม่ต่างกับจำนวนชั้นของอาคารยูนิตเหล่านี้ แต่ด้วยความพยายาม มนุษย์เราก็ทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงเสมอ เช่นกันครับ การเป็นเจ้าของคอนโดเอง แม้จะลำบากและยาวนาน แต่ก็มีวิธีการที่ช่วยให้เราเป็นเจ้าของได้ไวขึ้น ซึ่งนั่นคือ รีไฟแนนซ์คอนโด
โดยในวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับการรีไฟแนนซ์คอนโดว่า คืออะไร ดีอย่างไร เตรียมตัวแบบไหน และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง พร้อมทั้งแนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญด้านรีไฟแนนซ์อย่าง Refinn ด้วยเช่นกันครับ  เอาล่ะ เพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาวิธีลดภาระการผ่อนห้องพักบนตึกสูงเสียดฟ้าแบบนี้อยู่ บทความรีไฟแนนซ์คอนโดในครั้งนี้อาจจะมีคำตอบที่รอเพื่อน ๆ อยู่ก็ได้ครับ

มาทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์คอนโดกัน

รีไฟแนนซ์คอนโด คือการย้ายสินเชื่อคอนโดจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่ครับ ซึ่งการย้ายในครั้งนี้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนคอนโดนั้นลดลง และเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงจำนวนเงินที่ผ่อนจ่ายก็จะเป็นส่วนของเงินต้นมากขึ้น (ในบางกรณี) ซึ่งนั่นจะทำให้เราสามารถผ่อนคอนโดเสร็จเร็วขึ้นเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า การรีไฟแนนซ์คอนโด คือ หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดระยะเวลาในการผ่อนและลดยอดหนี้ให้กับผู้กู้นั่นเองครับ

ข้อดีน่ารู้ของการรีไฟแนนซ์คอนโด

ข้อดีน่ารู้ของการรีไฟแนนซ์คอนโด
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์คอนโดมีมากมายครับ โดยในครั้งนี้ผมจะชวนเพื่อนๆ ดูกันไปทีละขั้นครับว่าแค่ข้อดีเพียงข้อเดียวก็ส่งผลให้เกิดข้อดีอื่นๆ ตามมาแบบโดมิโน่เลยล่ะครับ

1. จ่ายดอกเบี้ยลดลง จ่ายต่อเดือนง่ายขึ้น

หนึ่งในคุณประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์เลย คือ ‘การลดอัตราดอกเบี้ย’ ครับ ซึ่งจะมากน้อยเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารแต่ละแห่งและปัจจัยอื่น ๆ แต่การลดอัตราดอกเบี้ยนี่แหละเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ คนอยากรีไฟแนนซ์คอนโดครับ
ซึ่งผมขอชวนเพื่อน ๆ คิดกันไปทีละขั้นกันครับว่า “เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในส่วนดอกเบี้ยก็ลดลงด้วยเช่นกัน และเมื่อจำนวนเงินส่วนดอกเบี้ยลดลง นั่นก็ทำให้ยอดผ่อนที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนลดลงไปอีก (ใช้คำว่า ‘ลด’ ได้เปลืองมากเลยครับ ฮ่า ๆ)
หรืออีกกรณีหนึ่งครับ เมื่อยอดดอกเบี้ยลดลง แต่เพื่อน ๆ ยังคงจ่ายเท่ายอดผ่อนแบบรวมดอกเบี้ยของธนาคารเดิมตามปกติ ยอดผ่อนที่จ่ายไปก็จะเข้าในส่วนเงินต้นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นครับ ซึ่งเมื่อยอดดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย (เกือบทั้งหมด) เปลี่ยนเป็นยอดเงินต้นแบบนี้ ก็ก่อให้เกิดข้อดีข้อถัดไปครับ

2. หมดหนี้เร็ว เป็นเจ้าของคอนโดไว

เมื่อจ่ายดอกเบี้ยลดลง และยอดผ่อนเข้าส่วนเงินต้นเพิ่มขึ้นนั่นก็เท่ากับว่าในเดือนนั้นเราจ่ายหนี้เยอะขึ้นครับ และในเมื่อจ่ายเยอะขึ้นทุก ๆ เดือน นั่นก็ทำให้เราสามารถปิดหนี้ได้ไวขึ้นนั่นเองครับ และเมื่อนั้นแหละ เราก็จะเป็นเจ้าของคอนโดในฝันอย่างเต็มตัว (ขอแสดงความยินดีด้วยครับ)
* อีกข้อสำคัญเลยคือ การจ่ายหนี้ (เพิ่ม) ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงนี้จะทำให้เราประหยัดเงินได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ

3.มีเครดิตบูโรดี กู้ง่ายขึ้นในครั้งต่อไป

แน่นอนครับ ตามสูตรของผู้ที่ปิดหนี้ นอกจากเราจะเป็นเจ้าของคอนโดในฝัน และประหยัดเงินแล้ว เราจะจบภารกิจนี้ด้วยสถานะ ‘011: ชำระหนี้ครบจำนวน’ ในเครดิตบูโร ซึ่งถือได้ว่ามีโอกาสเป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคาร และง่ายต่อการขอสินเชื่อในอนาคตนั่นเองครับ
และนี่ก็คือสวนหนึ่งของข้อดีที่การรีไฟแนนซ์คอนโดมอบให้กับผู้กู้อย่างพวกเรานี่แหละครับ ได้ทั้งคอนโด ได้ทั้งประหยัดเงินประหยัดเวลา แถมยังมีสถานะที่ดีในลิสต์เครดิตบูโรอีก สบายใจกันเลยทีเดียวล่ะครับ
ที่สำคัญเลยคือเราควรมีที่ปรึกษาสำหรับการรีไฟแนนซ์ด้วยก็ดีนะครับ เพื่อที่เขาจะได้แนะนำ แบ่งปัน รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลให้ด้วยว่ารีไฟแนนซ์กับธนาคารไหนด้วยโปรโมชั่นอะไรถึงจะเหมาะกับเราที่สุด ซึ่งผมก็มีเสนอหนึ่งเจ้าครับ นั่นคือ Refinn ผู้เชี่ยวชาญและให้คำแนะนำการรีไฟแนนซ์คอนโดและรวมถึงธุรกรรมการเงินอื่น ๆ ด้วย ซึ่งจุดเด่นของเขาเลยคือ การมีพันธมิตรเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศที่อัปเดตข้อมูลรีไฟแนนซ์อยู่เสมอ ซึ่งนั่นได้ทำให้ผู้ใช้งานของเขาไม่พลาดโปรโมชั่นใหม่ ๆ อีกทั้งยังพบตัวเลือกรีไฟแนนซ์คอนโดที่โดนใจด้วยการคัดสรรอย่างดีจาก Refinn กันเลยล่ะครับ

สมัครรีไฟแนนซ์คอนโดเสียค่าใช้จ่ายไหม?

การรีไฟแนนซ์คอนโดนั้นก็มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกันไม่ต่างจากการรีไฟแนนซ์ในแบบอื่น ๆ และผมขอบอกก่อนเลยครับว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือโปรโมชั่นพิเศษของแต่ละธนาคาร โดยผมได้รวบรวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้นของการรีไฟแนนซ์คอนโดมาได้ดังนี้ครับ
  1. ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน ประมาณ 2-3 พันบาท ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของหลักประกัน
  2. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้
  3. ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ 0.05% ของวงเงิน 
  4. ค่าประกันอัคคีภัย เป็นไปตามมูลค่าของบ้าน เป็นประกันภาคบังคับของผู้กู้ซื้อบ้าน (คอนโด) ทุกคนต้องทำ โดยราคาจะไม่สูง ประมาณ 1-3 พันบาท หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับมูลค่าของหลักประกัน 
  5. ค่าเดินทางทำธุรกรรม แน่นอนครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ค่าใช้จ่ายหลักอะไร แต่ก็เป็นต้นทุนที่เราต้องใช้ในการดำเนินการใช่ไหมครับ? จะมากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับระยะทางและสถานที่ที่เราไป ทั้งธนาคารเก่า ธนาคารใหม่ กรมที่ดิน เป็นต้น

แต่ปัญหาค่าเดินทางนี้จะหมดไปครับ ถ้าเราใช้บริการผ่าน Refinn เพราะอีกหนึ่งความโดดเด่นของเขา คือ การีไฟแนนซ์ที่เราไม่ต้องไปธนาคารเองครับ เพียงแค่กรอกข้อมูลลงในเว็บไซต์ Refinn เท่านั้นเอง เดี๋ยวทางทีมงานจะดำเนินการแทนเราครับ ถือได้ว่า ลดค่าใช้จ่ายเราไปได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์คอนโด

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์คอนโด
เอาล่ะครับ เราจะมาดูกันในด้านเอกสารของการรีไฟแนนซ์คอนโดว่ามีอะไรกันบ้าง โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ตามนี้ครับ
  1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล คือ เอกสารประเภทข้อมูลเกี่ยวกับผู้กู้ เพื่อให้ธนาคารสามารถยืนยันตัวตนและตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ขอกู้จริงๆ ไม่ใช่บุคคลแอบอ้าง เช่น ข้อมูลบัตรประชาน เป็นต้นครับ
  2. เอกสารแสดงด้านการเงินต่างๆ คือ เอกสารแสดงรายได้ที่ให้ธนาคารนำไปพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ คำนวณความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ สภาพคล่องทางการเงินและเช็คประวัติทางการเงินที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับพนักงานประจำคงจะเป็นสลิปเงินเดือน ส่วนเจ้าของธุรกิจก็ต้องสเตทเมนต์ใช่ไหมล่ะครับ
  3. เอกสารด้านหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน, สัญญาเงินกู้ของธนาคารเดิม หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่ใช้ค้ำประกันครับ

อยากสมัครรีไฟแนนซ์คอนโดต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?

ทีนี้เรามาเช็คกันบ้างดีกว่าครับว่าผู้ที่สามารถขอรีไฟแนนซ์คอนโดต้องมีสเป็กแบบไหนกันบ้าง ซึ่งแบ่งได้ประมาณนี้ครับ (แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ควรศึกษาให้ละเอียดนะครับ)

พนักงานบริษัท / ข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ

     –  รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
     –  สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
     –  อายุงานในบริษัทปัจจุบันไม่น้อยกว่า 3 เดือน
     –  ต้องผ่านช่วงการทดลองงานแล้ว

เจ้าของธุรกิจส่วนตัว / เจ้าของกิจการ

     –  รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
     –  สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
     –  มีการจดทะเบียนบริษัท หรือประกอบธุรกิจมาไม่น้อยกว่า 2 ปี

ผู้ประกอบอาชีพอิสระ / ฟรีแลนซ์ (Freelance)

     –  รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาท ต่อเดือนเป็นต้นไป
     –  มีเอกสารแสดงที่มาของรายได้ตามกฎหมาย
     –  สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี

     –  ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

ขั้นตอนสมัครรีไฟแนนซ์คอนโด

วางแผนรีไฟแนนซ์

สิ่งที่ควรทำอย่างแรกเลยคือ การเช็คตัวเองนี่ล่ะครับ เช็คว่าสัญญากู้ของเราสามารถรีไฟแนนซ์คอนโดได้เมื่อไหร่ โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์คอนโดสามารถทำได้หลังจากผ่อนมาแล้ว 3 ปี และที่สำคัญต้องรู้ยอดหนี้คงเหลือที่ผ่อนคอนโดอยู่กับธนาคารเดิมด้วยครับ คำแนะนำของผมสำหรับการรีทำไฟแนนซ์คอนโด คือ ให้เพื่อน ๆ เริ่มรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ช่วง 1-2 เดือนก่อนครบ 3 ปี นั่นก็เป็นเพราะว่าธนาคารใหม่ต้องใช้เวลาในการพิจารณา ประเมินราคาคอนโด และทำเรื่องอนุมัติของสินเชื่อต่างๆ รวมแล้วประมาณ 1-2 เดือน และเมื่ออนุมัติแล้วก็จะอยู่ในช่วงครบ 3 ปีพอดีนั่นเองครับ วางแผน จัดเวลากันให้ดีนะครับทุกคน

     1. เลือกธนาคารและโปรโมชั่นที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

ในข้อนี้ ผมขอไม่ใช้คำว่า ‘ดีที่สุด’ ครับ เพราะคำนี้มันกว้างเกิน บางทีดีสำหรับคนอื่น แต่ไม่ดีสำหรับเราก็มี ดังนั้นการเลือกโปรโมชั่น เงื่อนไข และธนาคารในการรีไฟแนนซ์คอนโดให้เหมาะกับเรานี่ล่ะครับ คือ สิ่งที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถผ่อนชำระได้ตามกำลังความสามารถได้อย่างเต็มที่ ไม่ฝืนไปยังไงล่ะครับ
     2. เตรียมเอกสารประกอบการรีไฟแนนซ์คอนโด
แต่ละธนาคารอาจมีความแตกต่างในการเตรียมเอกสารในการรีไฟแนนซ์คอนโด แต่เพื่อนๆ สามารถอ่านทำความเข้าใจแบบคร่าว ๆ ได้ในหัวข้อก่อนหน้าครับ
     3. ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์คอนโดกับธนาคารใหม่
เมื่อเจอตัวเลือกที่เหมาะกับเราแล้ว เตรียมเอกสารทุกอย่างครบถ้วนแล้ว เราก็ไปทำเรื่อขอรีไฟแนนซ์คอนโดกับธนาคารใหม่ได้เลยครับ โดยหลังจากส่งเอกสารเรียบร้อยแล้ว ธนาคารใหม่จะนัดหมายเพื่อส่งคนประเมินราคาหลักประกัน และใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติทั้งหมดประมาณ 2-6 สัปดาห์
     4. ทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดิน
เมื่อเราได้รับการอนุมัติรีไฟแนนซ์คอนโดจากธนาคารใหม่แล้ว ทางธนาคารจะแจ้งนัดให้เราไปไถ่ถอนหนี้จากธนาคารเก่า เพื่อให้ธนาคารใหม่และเก่าสามารถโอนหนี้ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากธนาคารใหม่จะถือสัญญาไปเซ็นที่กรมที่ดินพร้อม ๆ กับการทำสัญญาจดจำนองใหม่ในวันเดียวกันเลยครับ

เปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์คอนโด เลือกธนาคารไหนดี?

ผมเชื่อเลยว่า เพื่อน ๆ คนไหนที่อ่านมาถึงหัวข้อนี้คงคิดว่าต้องได้อ่านโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์คอนโดของแต่ละธนาคารจนลายตาแน่เลย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปครับ เพราะ Refinn ได้รวบรวมโปรโมชั่นการรีไฟแนนซ์คอนโดของธนาคารต่าง ๆ ไว้ให้ในที่เดียวที่เว็บไซต์ของเขาแล้ว! ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็คและเปรียบเทียบข้อมูลได้อย่างง่ายดายเลยครับ นอกจากนี้เราสามารถยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์ผ่านทาง Refinn ได้ ไม่ต้องดำเนินการเองให้เสียเวลาอีกต่างหาก

นอกจากจะไม่ต้องค้นหาและอ่านเปรียบเทียบข้อมูลจนเมื่อยตาแล้ว  ยังเหมือนมีคนคอยดำเนินการเรื่องรีไฟแนนซ์คอนโดแทนเรายังไงยังงั้น จบ ครบ ในที่เดียวจริง ๆ ครับ Refinn

สรุปเรื่องรีไฟแนนซ์คอนโด

ในท้ายที่สุดนี้ ต้องบอกเลยว่า การรีไฟแนนซ์คอนโดก็ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ลดภาระในการผ่อนหนี้ให้กับพวกเราจริง ๆ  ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราศึกษาหาข้อมูลการรีไฟแนนซ์เพื่อเพิ่มเข้าใจให้กับตัวเอง และดียิ่งกว่าครับ หากเรามีที่ปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่าง  Refinn ที่คอยให้คำแนะนำ คัดเลือก เปรียบเทียบ และดำเนินการให้กับเราในทุก ๆ ด้านอีกด้วย ซึ่งเขานั้นก็มีความน่าเชื่อถือและจะช่วยเพื่อน ๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ระดับหนึ่ง เหมือนมีเพื่อนที่ไว้ใจได้คอยอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลาเลยล่ะครับ ดังนั้น อยากรีไฟแนนซ์คอนโดให้นึกถึง Refinn