รวม! คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกองทุนรวม

กองทุนรวมเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน แต่สำหรับมือใหม่ อาจมีคำถามมากมายก่อนตัดสินใจซื้อ วันนี้ WealthMagik รวบรวม คำถามยอดฮิตในการซื้อกองทุนรวม ที่ทุกคนสงสัย พร้อมคำตอบแบบเข้าใจง่าย มาให้แล้ว!
1. ซื้อกองทุน IPO ดีไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?
กองทุน IPO (Initial Public Offering) คือกองทุนที่เปิดขายครั้งแรก มีจุดเด่นที่ค่าธรรมเนียมมักจะถูกกว่าปกติ แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น ไม่มีสถิติย้อนหลังให้ดู อาจต้องพึ่งพาข้อมูลจากผู้จัดการกองทุนเป็นหลัก การตัดสินใจซื้อกองทุน IPO จึงควรพิจารณาหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ของกองทุน นโยบายการลงทุน และแนวโน้มของสินทรัพย์ที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน หากกองทุนมีแผนการลงทุนที่น่าสนใจและเป็นไปในทิศทางที่คุณเชื่อมั่น กองทุน IPO ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน อย่างไรก็ตาม ควรเปรียบเทียบกับกองทุนที่มีอยู่ในตลาดก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ากองทุน IPO ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่คุ้มค่า
2. ซื้อกองทุนแล้วขาดทุน ทำยังไงดี?
การลงทุนทุกประเภทมีโอกาสขาดทุน และกองทุนรวมก็เช่นกัน สิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์ว่าขาดทุนเกิดจากอะไร หากขาดทุนเกิดจากสภาวะตลาดโดยรวม การถือลงทุนต่ออาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะตลาดมักมีรอบขึ้นลง หากขาดทุนเกิดจากผลการดำเนินงานของกองทุนที่แย่กว่ากองทุนในกลุ่มเดียวกัน คุณอาจต้องพิจารณาสับเปลี่ยนไปยังกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีกว่า อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar Cost Averaging) หรือการทยอยลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงเพื่อลดต้นทุนเฉลี่ย และสุดท้าย หากกองทุนเปลี่ยนนโยบายไปจากเดิมหรือมีการบริหารที่ไม่น่าไว้วางใจ การขายออกแล้วหากองทุนใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
3. ควรสับเปลี่ยนกองทุนเมื่อไหร่?
การสับเปลี่ยนกองทุนไม่ควรทำเพียงเพราะเห็นผลตอบแทนลดลงในระยะสั้น แต่ควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ เช่น กองทุนมีผลตอบแทนต่ำกว่ากองทุนอื่นในกลุ่มเดียวกันเป็นเวลานาน นโยบายการลงทุนของกองทุนเปลี่ยนไปจากเดิม หรือค่าธรรมเนียมสูงขึ้นจนไม่คุ้มค่า หากกองทุนที่คุณถืออยู่มีสัญญาณเหล่านี้ การพิจารณาสับเปลี่ยนอาจช่วยให้พอร์ตของคุณเติบโตได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนสับเปลี่ยนควรดูผลกระทบเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น
4. กองทุนปันผล vs. กองทุนสะสมมูลค่า อันไหนดีกว่ากัน?
การเลือกกองทุนปันผลหรือสะสมมูลค่าขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนของคุณ หากคุณต้องการกระแสเงินสดระหว่างทาง กองทุนปันผลอาจตอบโจทย์ เพราะคุณจะได้รับเงินปันผลออกมาเป็นระยะ แต่ต้องยอมรับว่าหลังจ่ายปันผลแล้ว NAV ของกองทุนจะลดลง ในขณะที่กองทุนสะสมมูลค่าจะนำกำไรไปลงทุนต่อ ทำให้มีโอกาสเติบโตในระยะยาวโดยไม่มีการดึงเงินออก การเลือกกองทุนจึงควรสอดคล้องกับความต้องการทางการเงินของคุณ
5. ลงทุนกองทุนต่างประเทศ ต้องดูอะไรบ้าง?
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพิ่มขึ้น เช่น ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กองทุนไปลงทุน และนโยบายของกองทุนว่ามีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินหรือไม่ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเป้าหมายให้ดี และพิจารณาว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวหรือไม่
6. ซื้อกองทุนแล้วต้องติดตามอะไรต่อ?
การซื้อกองทุนไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ติดตามผล ควรเช็กผลตอบแทนเทียบกับ Benchmark เป็นระยะ ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุน และดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมหรือโครงสร้างการลงทุนหรือไม่ การติดตามข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับพอร์ตได้อย่างเหมาะสม
7. กองทุนที่เคยทำผลตอบแทนดี ตอนนี้เริ่มแย่ ควรทำยังไง?
กองทุนที่เคยทำผลงานดีอาจเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด หรือผู้จัดการกองทุนอาจเปลี่ยนนโยบายการลงทุน หากกองทุนเริ่มมีผลตอบแทนแย่ลง ควรพิจารณาว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ถ้าหากเป็นผลกระทบจากตลาดโดยรวม อาจรอให้สถานการณ์ฟื้นตัว แต่หากกองทุนทำได้แย่กว่ากองทุนอื่นในกลุ่มเดียวกัน อาจเป็นสัญญาณว่าควรพิจารณาสับเปลี่ยน
8. ควรเลือกกองทุนที่มี AUM สูงหรือไม่?
AUM (Asset Under Management) หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณา กองทุนที่มี AUM สูงอาจบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการบริหารที่มีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งกองทุนเล็กที่มีการบริหารจัดการที่ดีอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าได้ ดังนั้นควรดูผลการดำเนินงานและนโยบายของกองทุนเป็นหลัก
9. กองทุนที่ NAV สูงแล้ว ยังน่าซื้ออยู่ไหม?
NAV (Net Asset Value) เป็นมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน ไม่ได้หมายความว่า NAV สูงจะทำให้กองทุนแพงขึ้น การตัดสินใจซื้อกองทุนควรพิจารณาผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง นโยบายการลงทุน และค่าธรรมเนียม ไม่ควรใช้ NAV เป็นตัวตัดสินใจเพียงอย่างเดียว
10. ควรเลือกกองทุนแบบ Active Fund หรือ Passive Fund ดีกว่ากัน?
NAV (Net Asset Value) Active Fund มีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารเพื่อพยายามเอาชนะตลาด แต่มีค่าธรรมเนียมสูงกว่า Passive Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนตามดัชนีและมีค่าธรรมเนียมต่ำ การเลือกกองทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนที่อาจสูงกว่าและยอมรับความเสี่ยงได้ Active Fund อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องการลงทุนในระยะยาวแบบต้นทุนต่ำ Passive Fund อาจเหมาะสมกว่า
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่