Optimize Portfolio ฟังก์ชันปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แน่นอนว่าในเรื่องของการลงทุนผลตอบแทนมักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ยิ่งต้องการผลตอบแทนสูงความเสี่ยงก็ยิ่งสูงตาม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือการลงทุนระยะยาว พอร์ตการลงทุนก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นการปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ “ Optimize Portfolio”
Optimize Portfolio คือ
การปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาจจะเน้นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือแม้แต่การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ ขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน การ Optimize Portfolio เป็นการคำนวณสัดส่วนของการลงทุนจากอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง ความเสี่ยง และการคำนวณการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ฉะนั้นการ Optimize Portfolio จะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในการสร้างผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงของพอร์ตในสถานการณ์ที่เหมาะสม
ทำไมต้อง Optimize Portfolio
เพราะการลงทุนไม่มีสินทรัพย์ไหนที่จะมั่นคงเสมอไป อาจจะมีขึ้น-ลงบ้างตามจังหวะสถานการณ์ ฉะนั้นเราจึงต้อง Optimize Portfolio เพื่อ
- การลดความเสี่ยง : การกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ต หากมีความผิดพลาดหรือเกิดความผันผวนของตลาดสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบก็ยังคงมีโอกาสทำกำไรหรือดำเนินการได้ตามปกติ
- การเพิ่มผลตอบแทน : การประเมินว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ใดให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุน
ควร Optimize Portfolio เมื่อไหร่ ?
- เป้าหมายการลงทุนเปลี่ยนไป : เป้าหมายในการลงทุนย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เช่น จากที่เคยชอบลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง พอถึงวัยใกล้เกษียณก็อาจจะต้องเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาความเสี่ยงในการลงทุนอาจจะเป็นการเพิ่มหรือลดสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความต้องการที่คาดหวังไว้ ซึ่งนักลงทุนสามารถปรับเป้าหมายการลงทุนเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายตัวเองได้เสมอ
- การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในตลาด : เมื่อเกิดเหตุการณ์ในตลาดการลงทุน เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ปัญหาทางเศรษฐกิจ สงคราม หรือแม้แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อตลาด การOptimize Portfolio ช่วยปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้
- การเปลี่ยนแปลงของสถานะทางการเงิน : เมื่อมีการเปลี่ยนแปลของสถานะทางการเงินส่วนบุคคล เช่น มีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นจำเป็นต้องลดการลงทุนลง หรือมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและต้องการลงทุนเพิ่มเติม การ Optimize Portfolio ช่วยปรับเป้าหมายการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานะการเงินปัจจุบันได้
เครื่องมือ Optimize Portfolio ของ WealthMagik
- เพิ่มผลตอบแทนแต่ความเสี่ยงเท่าเดิม > เน้นการลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยยังอยุ่ในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้เท่าเดิม
- ลดความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนเท่าเดิม > เน้นการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงน้อยลงเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และไม่กระทบกับผลตอบแทนเพราะผลตอบแทนที่ได้รับยังเท่าเดิมไม่ได้ลดลงตามความเสี่ยง
- ปรับตามพอร์ตแนะนำความเสี่ยงของพอร์ตปัจจุบัน > เน้นปรับพอร์ตตามคำแนะนำซึ่งยังอยุ่ในระดับความเสี่ยงเท่ากับพอร์ตปัจจุบัน ซึ่งทาง WealthMagik ได้นำกองทุนจากพอร์ตแนะนำจาก Investment Advisory ซึ่งเป็นการเอาพอร์ตของเราเปรียบเทียบกับกองทุนที่ผ่านจากเปรียบเทียบจากกองทุนที่แนะนำโดย Data analytic และการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้นักลงทุนได้ตัดสินใจจากผลตอบแทน ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะปรับตามพอร์ตแนะนำหรือไม่
- ปรับตามพอร์ตแนะนำตามความเสี่ยงที่รับได้ > เน้นปรับพอร์ตตามคำแนะนำในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แต่ต้องทำการประเมินในแบบประเมินความเสี่ยงหรือเลือกความเสี่ยงที่เรารับได้ ซึ่งทาง WealthMagik ได้นำกองทุนจากพอร์ตแนะนำ จาก Investment Advisory ซึ่งเป็นการเอาพอร์ตของเราเปรียบเทียบกับกองทุนที่ผ่านจากเปรียบเทียบจากกองทุนที่แนะนำโดยData analytic และการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้นักลงทุนได้ตัดสินใจจากผลตอบแทน ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะปรับตามพอร์ตแนะนำหรือไม่
วิธีการใช้งาน Optimize Portfolio ของ WealthMagik
Website
Application
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่