หลายท่าน คงเคยได้ยิน เรื่องราว หรือเคยได้สัมผัส เกี่ยวกับร้านสโตร์ IKEA ยักษ์ใหญ่ สัญชาติสวีเดน (ไม่แปลก ที่โลโก้ของ IKEA จึงมีแค่ สีเหลือง และสีฟ้าเท่านั้น) ที่เข้ามา บุกตลาดเมืองไทย ได้ประมาณปีกว่าแล้วพร้อมกับนำเสนอ สโลแกนที่ว่า “การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน ที่มีความหลากหลายผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น ได้รับการออกแบบ มาอย่างสร้างสรรค์ ให้ประโยชน์ ใช้งานได้ดีในราคาย่อมเยา ที่คนทั่วไป สามารถเป็นเจ้าของได้” โดยการมาของIKEA ไม่ได้มา แบบเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านแล้วจบแต่เป็นการมา โดยบางอย่าง ที่ไม่ธรรมดา มีการสร้างเรื่องราว ที่ทำให้ คนซื้อจดจำ และสนุก ไปกับการจับจ่าย ใช้สอยเพราะ IKEA มาพร้อมกับคำว่า DIY (Do Its Yourself) ตั้งแต่ เริ่มกระบวนการซื้อ จนกระทั่งกระบวนการ การใช้กันเลยทีเดียว

        ถ้าดูจากขั้นตอน ในการช็อปปิ้งสไตล์IKEA (ที่มา http://www.ikea.com/th/th/)ที่ระบุไว้ว่า

        –  สามารถ เลือกเปรียบเทียบและทดลองสินค้า ทุกอย่างในโชว์รูมได้ ป้ายราคา แสดงรายละเอียด ทุกอย่างเกี่ยวกับ สินค้าเช่น สี วัสดุ ขนาด คุณลักษณะ และการดูแลรักษา

        –  จดรายละเอียดสินค้า หมายเลขแถว และช่องของชั้นวางสินค้า ที่คุณต้องการใช้ดินสอ และกระดาษ จดรายการ สินค้าที่มีบริการในสโตร์

        –  หยิบสินค้าด้วยตนเอง(โดยความร่วมมือ ในการหยิบสินค้า ด้วยตนเองนี้ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ IKEAคงราคาสินค้า ที่ย่อมเยาเอาไว้ได้)

        –  นำสินค้ากลับบ้านเอง

        –  ประกอบสินค้า ได้ด้วยตัวเองโดยประกอบสินค้า ตามวิธีที่ระบุ ในคู่มือ ประกอบสินค้า พร้อมใช้งานได้ทันที(ถ้าจะเลือก ใช้บริการประกอบสินค้าให้ ก็มีนะครับ)

        ด้วยความที่มันเป็น DIY ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ เมื่อเรามองเตียงนอนตัวนั้น ที่ตั้งอยู่ในบ้าน และเราได้ลองทำร่างกาย ขนานกับเตียงนั้นแล้วเผลอหลับตาลง บางที เราอาจจะนอนหลับได้ มากขึ้นและไม่สะดุ้งบ่อย ๆ ก็ได้เพราะมัน เป็นเตียงนอน ที่เราซื้อมาเอง หยิบเอง ประกอบเอง มากับมือทั้งหมดหรือเมื่อเรา มองไปที่โต๊ะกินข้าว ที่ตั้งอยู่ในบ้านบางที เราอาจจะกินข้าว ได้อร่อยมากขึ้น และกินเยอะขึ้น (อันนี้ ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญด้วยนะครับ ไม่งั้นอ้วนแน่ ๆ)เพียงเพราะมันเป็นสิ่งที่เรา DIY ทุกอย่างขึ้นมาซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละ ที่สร้างความภูมิใจเล็ก ๆ ให้กับผู้ซื้อ เมื่อได้ใช้งาน

        โลกแห่งการลงทุน ก็เช่นเดียวกันครับ การบริหาร จัดการเงิน ผ่านการวางแผนการเงิน ก็เป็นสิ่ง ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง (DIY) และเป็นสิ่ง ที่ทุกคนควรจะทำด้วยครับ (High Recommend เลยครับ) เพราะโดยปกติ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีใคร อยากให้คนอื่น(ที่ไม่รู้จัก หรือสนิทสนมกันมาก ๆ มารู้เรื่องสถานภาพ ทางการเงิน ของตัวเองหรอกครับดังนั้น ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิต และเป้าหมายนั้น ต้องพึ่งพาเงิน เช่นต้องการเก็บเงิน เพื่อการศึกษา ให้ลูกจำนวน 500,000 บาทในอีก 7ปีข้างหน้า หรือต้องการเก็บเงิน เพื่อแต่งงานจำนวน 200,000 บาทในอีก 3 ปีข้างหน้า เป็นต้น เราก็ควร ที่จะมาวางแผน การเงิน เพื่อบรรลุเป้าหมายกันเถอะซึ่งเราสามารถ ทำด้วยตัวเองผ่าน Web Site ของทีมงาน WealthMagikซึ่งให้บริการ ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน และการลงทุน โดยหนึ่งในบริการ ก็คือบริการPrivate Wealth Online สำหรับ การวางแผนการเงิน ผ่านเมนูที่ชื่อว่าMy Plan (ที่มา http://www.wealthmagik.com/FP/FPHome.aspx) ซึ่งประกอบไปด้วย

        ผลการประเมิน ที่ได้จากการบันทึก ข้อมูลรายได้, รายจ่าย,จำนวนเงินออม ที่ออมได้, อัตราผลตอบแทน ที่คาดหวัง,อัตราค่าใช้จ่าย ที่คาดหวัง ในแต่ละแผนการเงิน ทำให้เรา ได้แผนการเงิน ในแต่ละเดือน ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้(บางครั้งการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ อาจจะทำให้เรา ไม่บรรลุเป้าหมายซึ่งเราจะสามารถ ปรับเปลี่ยนข้อมูลเช่น เพิ่มการออม, ยอมรับความเสี่ยง ในการลงทุนมากขึ้น เพื่อให้ได้ อัตราผลตอบแทน ที่คาดหวังมากขึ้นได้เป็นต้น ลองเข้าไปใช้งานดูนะครับ

        สุดท้าย เมื่อเรามีแผนการเงิน ตามเป้าหมายต่างๆ ซึ่งเรา DIYขึ้นมาเองแล้ว หลังจากนี้ สิ่งที่จะทำต่อไป คือนำแผนดังกล่าว มาทำให้มันเป็นจริง ด้วยการนำมาปฎิบัติ ทั้งการออม และการลงทุนต่อไปลงมือจัดพอร์ตการลงทุน ให้สอดคล้อง กับระดับความเสี่ยง ที่ยอมรับได้ และสัดส่วนการลงทุน– My IOS (ตามที่เคยแนะนำไปแล้ว ในบทความเรื่อง มาตรวจสุขภาพกันเถอะ!) ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง (We can do it!) เพื่อให้เป้าหมาย ที่ตั้งไว้สำเร็จ

        โชคดีในการลงทุนครับ…สาดคม ประกายดาบ