รีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ยเพิ่มเงินออม เพิ่มการเงินมั่งคั่ง
สำหรับใครที่ลงทุนซื้อบ้านและกำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วกังวลใจเรื่องความคุ้มค่าและการจัดการเงินที่จะต้องผ่อนจ่ายทุกเดือนในระยะยาว
“การรีไฟแนนซ์” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยลดทั้งดอกเบี้ยและภาระค่าผ่อนชำระต่อเดือน อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนหมดได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับการรีไฟแนนซ์กันครับว่าดียังไง ช่วยลดดอกเบี้ยยังไงบ้าง
การวางแผนการเงินกับการรีไฟแนนซ์บ้าน
อีกสิ่งที่สำคัญเลย คือ “เก็บก่อนใช้” และควรแบ่งสัดส่วนเงินเก็บเป็น 4 หลัก ๆ ด้วยกัน
ส่วนที่ 1 ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน (60%)
ส่วนที่ 2 เงินสำหรับใช้จ่ายเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง (20%)
ส่วนที่ 3 เงินออมเพื่อการลงทุน (10%)
ส่วนที่ 4 เงินออมเผื่อฉุกเฉิน (10%)
” เงินเดือน 25,000 บาท “
ต้องมีค่าใช้จ่ายประจำไม่เกิน 25,000 x 0.60 = 15,000 บาท
เงินสำหรับใช้จ่ายตามใจ 25,000 x 0.20 = 5,000 บาท
เงินออมเพื่อการลงทุน 25,000 x 0.10 = 2,500 บาท
เงินออมเผื่อฉุกเฉิน 25,000 x 0.10 = 2,500 บาท
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
รีไฟแนนซ์บ้านช่วยทำให้การลงทุนเติบโตขึ้นได้อย่างไร?
” นาย A ผ่อนบ้านราคา 2 ล้านบาทเป็นเวลา 20 ปี รวมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท ”
เท่ากับว่า 2,000,000 บาท (เงินต้น) + 2,500,000 บาท (ดอกเบี้ย) = 4,500,000 บาท คือจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องผ่อน
หลังจากที่ผ่อนมาครบ 3 ปีแรก ซึ่งหมดช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบโปรโมชันไปแล้วจึงตัดสินใจรีไฟแนนซ์
โดยเลือกระยะเวลาการผ่อนตามสัญญาเดิมเท่ากับคงเหลือ 17 ปี ทำให้ยอดทั้งหมดที่ต้องผ่อนเหลือเพียง 3,750,000 บาท
รีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดดอกเบี้ยบ้านให้ต่ำลง
ช่วยลดระยะเวลาในการขอผ่อนสินเชื่อบ้าน
ช่วยทำให้มีเงินออมมากขึ้น
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านใช้เวลานานไหม?
รีไฟแนนซ์บ้านต่างกับการ Retention อย่างไร?
วิธีการรีไฟแนนซ์ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- วางแผนและกำหนดวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ให้ชัดเจน
เช่น การลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน ลดดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ยบ้านและขอวงเงินกู้เพิ่ม เป็นต้น - เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน
ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านจากหลายแหล่ง เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงจะช่วยให้จำนวนเงินในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนถูกลง ซึ่งจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของคุณในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้อีกด้วย - ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์
พิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าปรับ, ค่าธรรมเนียม, ค่าประเมินอสังหาริมทรัพย์, และค่าอื่นๆ ให้รวมเข้ากับยอดสินเชื่อที่จะกู้เพื่อคำนวณว่าจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ - ตรวจสอบเงื่อนไขอื่น ๆ
เช่น ระยะเวลาผ่อนชำระ, ประเภทของสินเชื่อ, หรือข้อจำกัดอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขเหล่านี้เหมาะสมตรงกับความต้องการ หรือวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน
- ค่าธรรมเนียมในการจำนอง ประมาณ 1% ของราคาประเมิน ในส่วนนี้หลายธนาคารมีโปรโมชันฟรีค่าจดจำนอง หรือ ช่วยออกค่าจดจำนองให้ครึ่งหนึ่งครับ
- ค่าประเมินหลักประกัน ประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดบ้าน แต่ในปัจจุบันค่าประเมินหลักประกันธนาคารไม่ค่อยเก็บแล้วครับ
- ค่าอากรแสตมป์ ประมาณ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่