กองทุนในพอร์ตติดลบเรา(ควร)จบกันไหม
สถานการณ์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงยาวนานและต่อเนื่อง, ความขัดแย้งระหว่างประเทศ , ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ที่สหรัฐฯ ปิดกิจการ หรือ ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้กองทุนรวมปรับตัวลงอย่างหนักซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนไม่น้อย บางคนรีบขายกองทุนออกไปเพราะกลัวจะติดลบมากกว่านี้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ มาดูวิธีที่ WealthMagik แนะนำก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าควรเลือกทางไหนดี
วิธีพิจารณาในกรณีกองทุนในพอร์ตติดลบ
ถือต่อไป
ปรับพอร์ต
ในการลงทุนควรมี 2 สินทรัพย์ขึ้นไปเพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนอยู่แล้ว แต่ไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะได้กำไรตลอด อาจจะเกิดวิกฤตจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์หรือผลตอบแทนลดลงบ้าง ทำให้การลงทุนไม่เป็นไปตามแผน ต้องปรับตัวตามสถานการณ์โดยทำการ Rebalance Portfolio คือการปรับสัดส่วนการลงทุนให้กลับมาอยู่ในความเสี่ยงที่เรารับได้และผลตอบแทนที่เราคาดหวังไว้ตั้งแต่แรก เช่นเคยลงทุนในกองทุนรวมหุ้น 50 % กองทุนรวมตราสารหนี้ 50 % แล้วพบว่าตลาดมีความผันผวนสูง ทำให้กองทุนรวมหุ้นเปลี่ยนเป็น 80 % กองทุนรวมตราสารหนี้ 20 % ก็ควรทำการ Rebalance Portfolio ให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนเท่าเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่แรก
ขาย
ถ้าพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆปัจจัยดูแล้วกองทุนที่เราลงทุนอยุ่ไม่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ติดลบหนักมาก บวกกับปัจจัยภายในหลาย ๆอย่าง เช่น นโยบายการลงทุนไม่ตอบโจทย์กับเทรนด์ในยุคปัจจุบันและอนาคต กองทุนเปลี่ยนนโยบายบ่อย หรือผู้จัดการกองทุนเลือกสินทรัพย์ไม่ดี ก็อาจจะต้องขายทิ้งไปเลย แล้วนำไปซื้อสินทรัพย์อื่นแทนตามสถานการณ์ตลาด ยอมขาดทุนเพื่อไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น แต่จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้ด้วย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่