Thai ESG ทางเลือกการลงทุน ที่ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืน
ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่สนใจเรื่องความยั่งยืนในการทำธุรกิจ แต่ทั้งโลกก็กำลังให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะการทำธุรกิจในปัจจุบันต้องใส่ใจและคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม(Social) และ บรรษัทภิบาล (Governance) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อว่า ESG
ESG คืออะไร
การลงทุนอย่างยั่งยืน ที่คนกำลังให้ความสนใจในช่วงวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นทุกวัน เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน
E ย่อมาจาก Environment หรือ สิ่งแวดล้อม
การใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติให้คุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งประเมินได้จากการใช้ตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยมลพิษ ลดการปล่อยกาซเรือนกระจก การรีไซเคิล การประหยัดพลังงาน เป็นต้น
S ย่อมาจาก Social หรือ สังคม
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัท พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะยิ่งธุรกิจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เกี่ยวข้องก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจราบรื่น ซึ่งประเมินได้จากการใช้ตัวชี้วัดด้านสังคม เช่นความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน หรือ การให้โอกาสผู้พิการ เป็นต้น
G ย่อมาจาก Governance หรือ บรรษัทภิบาล
การบริหารธุรกิจอย่างโปร่งใส ยุติธรรม รวมไปถึงต่อต้านการทุจริต ซึ่งประเมินได้จากความโปร่งใสในการดำเนินกิจการ วัฒนธรรม กฎ/ระเบียบ โครงสร้างผู้บริหาร และ ขั้นตอนการดำเนินงานที่โปร่งใส เปิดเผยข้อมูลชัดเจนและตรวจสอบได้ เป็นต้น
Thai ESG ทางเลือกการลงทุนสำหรับคุณ
Thai ESG (Thailand ESG Fund) หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นการลงทุนระยะยาวที่ลงทุนในกิจการที่เน้นความยั่งยืนและยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย พันธบัตร/ตราสารหนี้ไทย และ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG อย่างน้อย 80% ของ NAV
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
- สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้และไม่เกิน 300,000 บาท (ไม่รวมกับ SSF/RMF หรือกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ )
- ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน (นับแบบวันชนวัน)
- ไม่มีขั้นต่ำและไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี แต่ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้
ศึกษารายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับกองทุน Thai ESG เพิ่มเติม คลิก