เจาะลึกตลาดไหนน่าจับตามอง ตลาดเกิดใหม่ VS ตลาดพัฒนาแล้ว
สำหรับนักลงทุนหลายท่านที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนสร้างผลตอบแทนในจังหวะนี้ อาจจะกำลังชั่งใจว่าสถานการณ์อย่างนี้ ควรลงทุนในไหนดี บทความนี้เลยจะมาพูดถึง ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และ ตลาดที่พัฒนาแล้ว (Develop Market) ซึ่งทั้งสองเป็นประเภทตลาดที่กำลังมาแรงของวงการการลงทุน มาดูกันเลยว่าสองตลาดนี้ต่างกันยังไง
ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market หรือ EM)
กลุ่มประเทศที่มีตลาดเกิดใหม่ หรือประเทศที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนา อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมไปสู่ระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาได้จากรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในประเทศ โดยประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีลักษณะเด่น คือ ปัจจัยพื้นฐานดี มีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานเยอะ รวมถึงอัตราการเติบโตของ GDP มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ย
ถ้ามองในมุมมองของนักลงทุนประเทศตลาดเกิดใหม่ถือว่าเป็นโอกาสในการลงทุน ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมากอยู่ในวัยแรงงาน มีความต้องการซื้อมาก เรียกได้ว่าเป็นฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบทางธุรกิจ รวมไปถึงมีทรัพยากรธรรมชาติราคาถูก ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตต่ำ อีกทั้งในหลายประเทศยังมีนโยบายดึงดูดการลงทุน เช่น ยกเว้นภาษี สนับสนุนเงินทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกอีกด้วย แต่ก็ยังมีความท้าทายมาก เนื่องจากตลาดเกิดใหม่จะมีความผันผวนสูง โครงสร้างพื้นฐานยังมีความล้าหลัง เช่น สาธารณูปโภคบางประเภท แต่ก็มีอัตราการเติบโตที่สูง และรวดเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว นักลงทุนจึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงตามไปด้วย
ตัวอย่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อิสราเอล รวมไปถึงประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ 4 ประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก หรือเรียกย่อๆว่า BRICS อย่างบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีประเทศที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังมาแรง นั่นก็คือ เวียดนาม ที่ตอนนี้นับได้ว่าเป็น Frontier Market หรือตลาดชายขอบ ที่กำลังพัฒนาและมีโอกาสจะกลายเป็นตลาดเกิดใหม่ได้ในอนาคต เนื่องจากเวียดนามในปัจจุบันเป็นประเทศที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อีกทั้งประชากรส่วนใหญ่ก็อยู่ในวัยแรงงาน ซึ่งมีกำลัง และมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย
ตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market หรือ DM)
กลุ่มประเทศตลาดพัฒนาแล้ว มีจุดเด่น คือ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจมั่นคง อัตราเงินเฟ้อต่ำ มีการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ GDP ที่สม่ำเสมอ มีโครงสร้างพื้นฐานแข็งแรง ประชากรในประเทศมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูง เทคโนโลยีล้ำสมัย อีกทั้งนักลงทุนยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก
ในมุมมองของการลงทุน แน่นอนว่าประเทศตลาดที่พัฒนาแล้วเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่มั่นคง และมีศักยภาพมากทีเดียว เนื่องจากส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศที่เปรียบเสมือนเสาหลักของเศรษฐกิจโลก มีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ทำให้มีความเสี่ยงในการลงทุนต่ำ และสามารถกระจายความเสี่ยงได้ในหลายสินทรัพย์ อีกทั้งยังดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก และแน่นอนว่าก็มีจุดที่ถือว่าเป็นข้อด้อยของตลาดที่พัฒนาแล้ว นั่นก็คือ เศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าตลาดเกิดใหม่ การจะเข้าไปลงทุนอาจจะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล และเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ส่งผลให้นักลงทุนรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยาก
ตัวอย่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา แคนาดา สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่คนนิยมไปท่องเที่ยว ประชาชนในประเทศมีรายได้ต่อหัวที่สูง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถเข้าถึงปัจจัยที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ตลาด ก็มีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ตลาดเกิดใหม่จะมีความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ในส่วนของตลาดที่พัฒนาแล้วจะมีความมั่นคง และมีศักยภาพ ดังนั้น การลงทุนจึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละท่านว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน อีกทั้งก่อนลงทุนควรศึกษาข้อมูลปัจจุบันของประเทศนั้นๆ ในหลายๆมิติ ทั้งสภาพเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน หรือความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
นักลงทุนบางท่านอาจจะเลือกลงทุนในตลาดเกิดใหม่ หรือตลาดที่พัฒนาแล้ว ผ่านการลงทุนในกองทุนรวม ตัวอย่างกองทุนบางกองที่ลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศตลาดที่พัฒนาแล้ว
AEOB
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อีเมอร์จิ้ง ออพพอร์ทูนิตี้ส์ บอนด์ ฟันด์
ประเภทกองทุน (AIMC) : Emerging Market Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedge
ความเสี่ยง : 6
KWI EE EURO
กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ
ประเภทกองทุน (AIMC) : Emerging Market
ความเสี่ยง : 6
TMBEMEQ
กองทุนเปิดทหารไทย Emerging Markets Equity Index
ประเภทกองทุน (AIMC) : Emerging Market
ความเสี่ยง : 6
K-USA-A(A)
กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า
ประเภทกองทุน (AIMC) : US Equity
ความเสี่ยง : 6
TMBUS500
กองทุนเปิดทหารไทย US500 Equity Index
ประเภทกองทุน (AIMC) : US Equity
ความเสี่ยง : 6
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
โทร 02 – 437 – 1588
Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่