การตั้งค่าคุกกี้

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา

คุกกี้เป็นไฟล์เล็กๆ ใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูล โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของลูกค้า ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ลูกค้าเลือกใช้ ในขณะที่ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ลูกค้าสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้ โดยการปรับการตั้งค่าในเบราว์เซอร์... 

Always Active

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ทุกส่วน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกจัดเก็บและลบออกหลังจากการท่องเว็บไซต์ของลูกค้า

คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำลูกค้าเมื่อลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีกครั้ง สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ จัดเนื้อหาที่เหมาะสำหรับลูกค้าได้ ทักทายลูกค้าด้วยชื่อ และจดจำค่าที่ลูกค้าเลือกได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดผลการทำงาน โดยประมวลผลจาก จำนวนหน้าที่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะกลุ่มของผู้เยี่ยมชม โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และบริษัทฯ จะนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการ และการใช้งานของผู้เยี่ยมชมให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและสนใจของลูกค้า ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า

Thailand Web Stat

จับตาแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568 ทิศทางเศรษฐกิจไทยและโลก

แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568
อย่างที่นักลงทุนหลายท่านทราบกันดีว่าในช่วงปลายปี 2567 Fed หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือที่ระดับ 4.75% – 5% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี และมองว่าต่อจากนี้จะเป็นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของ Fed ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568 นี้ เป็นอีกปีที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุน

ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2568

การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำและธนาคารกลางหลายแห่งมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้หลายประเทศเศรษฐกิจสำคัญมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวลดลงตามการชะลอตัวของภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชน เช่นเดียวกับเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะชะลอตัวลงแม้ว่าจะมีแรงสนับสนุนจากมาตรการฟื้นฟู
เศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบาง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโต แต่ยังไม่แข็งแรง ซึ่งอัตราเงินเฟ้อคาดว่าในปี 2568 จะมีการชะลอตัวลงไปที่ระดับ 4.3% เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางหลายแห่งจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป ซึ่งการผ่อนปรนนโยบายการเงินจะช่วยกระตุ้นการบริโภคได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจปี 2568 ก็จะยังได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น ความไม่แน่นอนของทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐฯ และจีน ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกโดยตรง ซึ่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ล่าสุดทรัมป์ได้ชนะการเลือกตั้ง ประเด็นที่น่าสนใจติดตามต่อในปี 2568 จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้า รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในอาเซียน ผลมาจากธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประกอบกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน มาสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะต้องเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและเงินลงทุนระหว่างประเทศจากการปรับทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก

แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบยังไงต่อเศรษฐกิจไทยปี 2568

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัว 2.3% – 3.3% จากการสนับสนุนจากภาครัฐ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของลงทุนภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และในปี 2568 นี้คาดว่ากนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงเหลือที่ระดับ 2.00% ในไตรมาสแรก เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยเสี่ยง คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก รวมถึงความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อีกทั้งจีนที่เป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ของโลกยังมีแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจลงอีก เนื่องจากภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งรัฐบาลไทยได้มีนโยบายรับมือกับเศรษฐกิจในปี 2568 ที่ควรให้ความสำคัญ คือ
  1. การขับเคลื่อนภาคการส่งออกให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือมาตรการกีดกันทางการค้า
  2. ปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม
  3. ขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน
  4. ดูแลเกษตรกรและสนับสนุนการปรับตัวในการผลิตภาคเกษตร
  5. ให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจปี 2568 ทั้งภาพรวมทั่วโลก และไทย ต้องเผชิญความท้าทายเป็นอย่างมาก ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสาร และปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ รวมถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเองอยู่เสมอ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

WealthMagik – ลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

โทร 02 – 437 – 1588

Line : @WealthMagik หรือ คลิกที่นี่