ต่อยอดเงินโบนัส ให้พุ่งสะบัดในอนาคต

“เงินโบนัส” ออกแล้วต้องจัดสรรยังไงดี ? สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรกก็คือควรจัดการหนี้สินของตนเองก่อน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บ้าน รถยนต์ เพื่อให้เหลือภาระหนี้สินน้อยที่สุด แล้วส่วนที่เหลือจากการจัดการหนี้สินจะนำมาต่อยอดอะไรได้บ้างเพื่อไม่ให้เงินอยู่เฉย ๆ WealthMagik มีไอเดียมาต่อยอดเงินโบนัสของคุณให้เติบโตขึ้น แต่การต่อยอดเงินโบนัสแบบไหนที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดมาดูกัน

ตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

1. ฝากธนาคาร

เป็นการเก็บเงินแบบวิธีพื้นฐานที่คนส่วนมากนิยมใช้กัน ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเอาเงินโบนัสไปทำอะไรต่อก็อาจจะฝากเงินไว้กับธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ ฝากประจำ หรือเงินฝากดิจิทัล เพราะไม่มีความเสี่ยงแต่ดอกเบี้ยที่ได้รับก็ค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่ต่ำ

2. ลงทุนตราสารหนี้

การลงทุนในตราสารหนี้เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เพราะเวลาที่ตลาดมีความผันผวน ตราสารหนี้ก็ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนได้

3. ลงทุนทองคำ

ทองคำเป็นสินทรัพย์มั่งคงไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา การลงทุนในทองคำสามารถลงทุนได้โดยการซื้อทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ กองทุนรวมอีทีเอฟทองคํา (Gold ETFs) หรือแม้แต่ลงทุนในกองทุนรวมทองคำ (แต่จะเลือกลงทุนแบบไหนอย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนนะครับ) ส่วนมากนิยมนำมาเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน

4. ลงทุนหุ้น

ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ เพราะการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงสูง เกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน ในอนาคตไม่สามารถการันตีได้ว่าอีก 5ปี 10ปี ข้างหน้าผลตอบแทนจะดีขึ้นไหม ถ้าติดลบมากๆ อาจจะทำให้เงินต้นที่ลงทุนไปหายก็เป็นไปได้

5. ลงทุนกองทุนรวม

การลงทุนในกองทุนรวมสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ทั้งแบบก้อนเดียว( Lumpsum ) หรือ ทยอยลงทุนเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอ (DCA) ไม่ต้องจัดการกองทุนเองเพราะมีผู้จัดการกองทุนที่บริหารจัดการกองทุนให้ได้ สามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภทตามระดับความเสี่ยงที่เรารับไหว เช่น ถ้าหากคุณรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำก็อาจจะเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ตัวอย่างเช่น KT-CSBOND-A , K-APB-A(A) แต่ถ้าหากรับความเสี่ยงได้สูงก็อาจจะเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น K-JPX-A(A) , SCBNK225D หรืออีกทางเลือกสำหรับคนที่เสียภาษีเยอะอาจจะซื้อกองทุนเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น RMF TESG ตัวอย่างเช่น KKP TECH RMF-H , KKP GB THAI ESG