XSpringAM
Daily Xpresso 
13 มีนาคม 2025
“เงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดบวก แต่บวกไม่สุดเนื่องจากสงครามการค้า – Goldman Sachs, JP Morgan ประสานเสียง ลดมุมมองบวกตลาดสหรัฐฯ”
Things you need to know
1. “เงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำคาด ตลาดตอบรับเชิงบวก” เมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.2% MoM/2.8% YoY และเงินเฟ้อที่แท้จริงอยู่ที่ 0.2% MoM/3.1% YoY สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกเล็กน้อย โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.49% ไปอยู่ที่ 5,599.30 จุด อย่างไรก็ตาม มุมมองของ TD Securities ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่รีบลดดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองกับเงินเฟ้อที่ดีขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของทรัมป์ที่อาจมีผลกับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในช่วงถัดไปหลังจากนี้ ยังมีสูงอยู่
2. “แคนาดา-ยุโรป ออกกำแพงภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ทรัมป์ระบุจะตอบโต้” โดยแคนาดาประกาศตั้งกำแพงภาษี 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม รวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์กีฬาจากสหรัฐฯ และจะมีผลบังคับใช้ในคืนวันนี้ตามเวลาไทย ด้านยุโรปก็ประกาศมาตรการคล้ายกัน แต่เพิ่มสินค้าจากบางรัฐฯ ที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพลับลิกัน เช่น ถั่วเหลืองจากรัฐหลุยเซียนา เข้าไปด้วย โดยจะมีผลในเดือนเมษายนนี้ แน่นอนว่าทร์มป์ประกาศตอบโต้กำแพงภาษีดังกล่าว แต่ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาว่าจะตอบโต้อย่างไร
3. “Goldman Sachs, JP Morgan ประสานเสียง ลดมุมมองบวกตลาดสหรัฐฯ” เมื่อคืนนี้ Goldman Sachs และ JP Morgan ออกเปเปอร์ลดมุมมองบวกกับสหรัฐฯ โดย GS ลดการเติบโตกำไรต่อหุ้น (EPS) ลงเหลือ 7% ไปอยู่ที่ 262 ดอลลาร์ต่อหุ้น และเป้าหมายของดัชนี S&P 500 ที่สิ้นปีเหลือ 6,200 จุด เท่ากับว่าสิ้นปีนี้ดัชนีจะซื้อขายที่ 23.66 เท่าของ Forward PER ล่วงหน้า 12 เดือน ด้าน JP Morgan ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเข้าสู่สภาวะหดตัว (recession) สูงถึง 40% เพิ่มจากเดิมที่ 30% เมื่อต้นปี และมองว่า GDP จะชะลอตัวเหลือเพียง 2% ทั้งหมดมาจากปัจจัยสงครามการค้าและนโยบายของทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอนสูง
4. “FT รายงาน Hedge Funds ลดการกู้ยืมและถือหุ้นสหรัฐฯ” สาเหตุสำคัญมาจากความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอน ทำให้กองทุนบริหารความเสี่ยงต้องลดการกู้ยืมและการถือหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงเวลานี้ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ FT พบว่า Millennium ที่บริหารโดย Izzy Englander ติดลบในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงถึง -1.4%
5. “รัฐบาลจีนเรียกผู้บริหาร Walmart เข้าพบ หลังมีข่าวขอลดราคาสินค้าจากจีน” รายงานข่าวของสำนักข่าวจากทางการจีนระบุว่ารัฐบาลจีนโดยกระทรวงพาณิชย์เรียกผู้บริหาร Walmart เข้าพบ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่บริษัทต้องการให้ผู้ผลิตสินค้าจากจีนแบกรับต้นทุนจากกำแพงภาษีที่เกิดจากสงครามการค้า และมองว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการค้าเสรี และเตือนว่าหากบริษัทอาจโดนมาตรการจากรัฐบาลจีนหากยังบีบผู้ผลิตจากจีนให้แบกรับต้นทุนอยู่ ทั้งนี้ผู้ผลิตจากจีนอยู่ได้บนกำไรที่บางมาก เนื่องจากการแข่งขันลดราคาสินค้า
Daily Trend
– “อยู่บนความไม่แน่นอนต่อไป” การให้สัมภาษณ์ของทรัมป์ที่ไม่ปฏิเสธว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะถดถอย ประกอบกับการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP และโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยเพิ่มขึ้นของ Goldman Sachs จาก 20 เป็น 25 หน่วย ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มตอบรับในทางลบ ประกอบกับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่มีมาตรการอย่างชัดเจน กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นการเทขายของสหรัฐฯ และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในรอบนี้ ความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้บ่งชี้ว่าตลาดสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกกำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก และมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจเกิดขึ้นไปอีกระยะหนึ่งจนกว่านโยบายทางการค้าทั่วโลกจะกลับมานิ่งเช่นเดิม
– “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขดัชนีราคาสินค้าฝั่งผู้ผลิตของสหรัฐฯ ตลาดคาด 0.3% MoM/3.4% YoY
XSpring AM
“เงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดบวก แต่บวกไม่สุดเนื่องจากสงครามการค้า – Goldman Sachs, JP Morgan ประสานเสียง ลดมุมมองบวกตลาดสหรัฐฯ”
Things you need to know
1. “เงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำคาด ตลาดตอบรับเชิงบวก” เมื่อคืนนี้มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.2% MoM/2.8% YoY และเงินเฟ้อที่แท้จริงอยู่ที่ 0.2% MoM/3.1% YoY สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกเล็กน้อย โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.49% ไปอยู่ที่ 5,599.30 จุด อย่างไรก็ตาม มุมมองของ TD Securities ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่รีบลดดอกเบี้ยเพื่อตอบสนองกับเงินเฟ้อที่ดีขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของทรัมป์ที่อาจมีผลกับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในช่วงถัดไปหลังจากนี้ ยังมีสูงอยู่
2. “แคนาดา-ยุโรป ออกกำแพงภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ทรัมป์ระบุจะตอบโต้” โดยแคนาดาประกาศตั้งกำแพงภาษี 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม รวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์กีฬาจากสหรัฐฯ และจะมีผลบังคับใช้ในคืนวันนี้ตามเวลาไทย ด้านยุโรปก็ประกาศมาตรการคล้ายกัน แต่เพิ่มสินค้าจากบางรัฐฯ ที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพลับลิกัน เช่น ถั่วเหลืองจากรัฐหลุยเซียนา เข้าไปด้วย โดยจะมีผลในเดือนเมษายนนี้ แน่นอนว่าทร์มป์ประกาศตอบโต้กำแพงภาษีดังกล่าว แต่ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาว่าจะตอบโต้อย่างไร
3. “Goldman Sachs, JP Morgan ประสานเสียง ลดมุมมองบวกตลาดสหรัฐฯ” เมื่อคืนนี้ Goldman Sachs และ JP Morgan ออกเปเปอร์ลดมุมมองบวกกับสหรัฐฯ โดย GS ลดการเติบโตกำไรต่อหุ้น (EPS) ลงเหลือ 7% ไปอยู่ที่ 262 ดอลลาร์ต่อหุ้น และเป้าหมายของดัชนี S&P 500 ที่สิ้นปีเหลือ 6,200 จุด เท่ากับว่าสิ้นปีนี้ดัชนีจะซื้อขายที่ 23.66 เท่าของ Forward PER ล่วงหน้า 12 เดือน ด้าน JP Morgan ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเข้าสู่สภาวะหดตัว (recession) สูงถึง 40% เพิ่มจากเดิมที่ 30% เมื่อต้นปี และมองว่า GDP จะชะลอตัวเหลือเพียง 2% ทั้งหมดมาจากปัจจัยสงครามการค้าและนโยบายของทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอนสูง
4. “FT รายงาน Hedge Funds ลดการกู้ยืมและถือหุ้นสหรัฐฯ” สาเหตุสำคัญมาจากความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอน ทำให้กองทุนบริหารความเสี่ยงต้องลดการกู้ยืมและการถือหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงเวลานี้ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ FT พบว่า Millennium ที่บริหารโดย Izzy Englander ติดลบในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงถึง -1.4%
5. “รัฐบาลจีนเรียกผู้บริหาร Walmart เข้าพบ หลังมีข่าวขอลดราคาสินค้าจากจีน” รายงานข่าวของสำนักข่าวจากทางการจีนระบุว่ารัฐบาลจีนโดยกระทรวงพาณิชย์เรียกผู้บริหาร Walmart เข้าพบ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่บริษัทต้องการให้ผู้ผลิตสินค้าจากจีนแบกรับต้นทุนจากกำแพงภาษีที่เกิดจากสงครามการค้า และมองว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการค้าเสรี และเตือนว่าหากบริษัทอาจโดนมาตรการจากรัฐบาลจีนหากยังบีบผู้ผลิตจากจีนให้แบกรับต้นทุนอยู่ ทั้งนี้ผู้ผลิตจากจีนอยู่ได้บนกำไรที่บางมาก เนื่องจากการแข่งขันลดราคาสินค้า
Daily Trend
– “อยู่บนความไม่แน่นอนต่อไป” การให้สัมภาษณ์ของทรัมป์ที่ไม่ปฏิเสธว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะถดถอย ประกอบกับการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP และโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยเพิ่มขึ้นของ Goldman Sachs จาก 20 เป็น 25 หน่วย ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มตอบรับในทางลบ ประกอบกับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่มีมาตรการอย่างชัดเจน กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นการเทขายของสหรัฐฯ และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในรอบนี้ ความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้บ่งชี้ว่าตลาดสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกกำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก และมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจเกิดขึ้นไปอีกระยะหนึ่งจนกว่านโยบายทางการค้าทั่วโลกจะกลับมานิ่งเช่นเดิม
– “ปัจจัยที่ต้องติดตาม” ตัวเลขดัชนีราคาสินค้าฝั่งผู้ผลิตของสหรัฐฯ ตลาดคาด 0.3% MoM/3.4% YoY
XSpring AM
แหล่งที่มา : XSpringAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก
