UOBAM : Daily Update 6 มีนาคม 2568
– ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเลื่อนเวลาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโก
– ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,006.59 จุด เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ +1.14%,
– ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ +1.12% และ
– ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ +1.46%
– ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวได้แถลงข่าวยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปอีก 1 เดือน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
– รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้ตกลงที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อแลกกับการขยายการผลิตในสหรัฐฯ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับแมรี บาร์รา ซีอีโอของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM), จิม ฟาร์เลย์ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และจอห์น เอลแคนน์ ประธานบริษัทสเตลแลนทิส (Stellantis)
– รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird แสดงความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนรับรู้ได้ว่าทำเนียบขาวกำลังตอบสนองต่อแรงกดดันที่เกิดขึ้นในตลาด และต่างก็คาดหวังว่าทำเนียบขาวจะเร่งปรับนโยบายตามความจำเป็นเพื่อลดความตื่นตระหนกในตลาด
– หุ้นกลุ่มวัสดุ กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง
– หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นขานรับข่าวสหรัฐฯ เลื่อนเวลาการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโก โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นจีเอ็ม พุ่งขึ้น 7.2% หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นสเตลแลนทิส ทะยานขึ้น 9.24%
– หุ้นอินเทล (Intel) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ ร่วงลง 2.4% หลังจากปธน.ทรัมป์ได้เสนอให้สมาชิกสภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายการอุดหนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
– หุ้นคราวด์สไตรก์ (Crowdstrike) ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ร่วงลง 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/2568 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
– สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ อโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 148,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 186,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
– สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนก.พ. จากระดับ 52.8 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.5 โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัว
– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค.
– นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.
แหล่งที่มา : UOBAM
แหล่งข้อมูล: บล.เว็ลธ์ เมจิก
