การตั้งค่าคุกกี้

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา

คุกกี้เป็นไฟล์เล็กๆ ใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูล โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของลูกค้า ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ลูกค้าเลือกใช้ ในขณะที่ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ลูกค้าสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้ โดยการปรับการตั้งค่าในเบราว์เซอร์... 

Always Active

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ทุกส่วน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกจัดเก็บและลบออกหลังจากการท่องเว็บไซต์ของลูกค้า

คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำลูกค้าเมื่อลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีกครั้ง สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ จัดเนื้อหาที่เหมาะสำหรับลูกค้าได้ ทักทายลูกค้าด้วยชื่อ และจดจำค่าที่ลูกค้าเลือกได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดผลการทำงาน โดยประมวลผลจาก จำนวนหน้าที่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะกลุ่มของผู้เยี่ยมชม โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และบริษัทฯ จะนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการ และการใช้งานของผู้เยี่ยมชมให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและสนใจของลูกค้า ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า

UOBAM : Daily Update 26 เมษายน 2566

Daily Update 26 เมษายน 2566

-ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันอังคาร (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส) รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคธนาคาร หลังมีรายงานว่าลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมากออกจากธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์

-ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,530.83 จุด ร่วงลง 344.57 จุด หรือ -1.02%,

-ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,071.63 จุด ลดลง 65.41 จุด หรือ -1.58% และ

-ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,799.16 จุด ร่วงลง 238.05 จุด หรือ -1.98%

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.

-หุ้นยูพีเอส ซึ่งเป็นบริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2.20 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.21 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ 2.293 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.301 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยูพีเอสยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2566 ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดของยูพีเอสเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

-ราคาหุ้นยูพีเอสร่วงลง 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 และได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มการขนส่งที่คำนวณในดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Transport Average Index) ร่วงลง 3.6% ซึ่งเป็นการดิ่งลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565

-ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทขนส่งรายอื่น ๆ ดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นเฟดเอ็กซ์ ร่วงลง 2.88% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 3.28% หุ้นไรเดอร์ ซิสเต็มส์ ดิ่งลง 2.52%

-ดัชนี KBW Regional Banking Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค ร่วงลง 3.9% หลังจากราคาหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ทรุดตัวลง 49% ภายหลังจาก FRB เปิดเผยว่า ยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.450 แสนล้านดอลลาร์

-หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 2.25% และหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2% ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีทั้ง 2 แห่งจะเปิดเผยผลประกอบการ

-หุ้น 3M ปรับตัวลง 0.66% หลังบริษัทประกาศปลดพนักงานอีก 6,000 ตำแหน่งทั่วโลกเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งที่ 2 หลังจากที่บริษัทประกาศเลิกจ้างพนักงาน 2,500 ตำแหน่งในช่วงต้นปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 ระบุว่า 3M มีพนักงานทั่วโลกจำนวน 92,000 ราย

-ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค, ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งสถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

-นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพราะสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

 

แหล่งที่มา : UOBAM

แหล่งข้อมูล: บลน.เว็ลธ์ เมจิก