Thailand Web Stat

Daily Update 20 สิงหาคม 2567

— ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (19 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รวมทั้งจับตาการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,896.53 จุด เพิ่มขึ้น 236.77 จุด หรือ +0.58%,

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,608.25 จุด เพิ่มขึ้น 54.00 จุด หรือ +0.97% และ

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,876.77 จุด เพิ่มขึ้น 245.05 จุด หรือ +1.39%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในปี 2567 และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นเป็นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 ส.ค. โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนต่างก็คาดหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

พอล นอลเต้ นักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากบริษัท Murphy & Sylvest ในรัฐอิลลินอยส์ คาดการณ์ว่า นายพาวเวลจะเน้นย้ำถึงมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดและเศรษฐกิจก็กำลังดำเนินไปด้วยดี ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวจะทำให้ตลาดตีความว่าเฟดมีความพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปี 2567 และคาดว่าสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เนื่องจากเงินเฟ้อชะลอตัวลง

ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าลงเหลือ 20% จากเดิมที่ระดับ 25% หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดและตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลง

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมกล่าวปราศรัยเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับส่งไม้ต่อให้แก่นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในศึกเลือกตั้งเดือนพ.ย.

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.44% และ 1.43% ตามลำดับ

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.5% หลังจาก AMD ประกาศแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัท ZT Systems ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ ในวงเงิน 4.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้สามารถแข่งขันกับอินวิเดีย (Nvidia) ได้ดียิ่งขึ้น

 

แหล่งที่มา : UOBAM

แหล่งข้อมูล: บล.เว็ลธ์ เมจิก