📈Market update

📍 Major Equity Indices:

S&P500+0.62%,

NASDAQ+1.02%,

STOXX600-0.02%,

Nikkei225-0.85%,

HSCEI-0.02%,

CSI300+0.81%,

KOSPI-0.18%,

NIFTY50-0.49%,

SET+1.71%,

VNINDEX-0.74%

📍 Sector Return: ConsumerDiscretionary-XLY(+1.48%), Technology-XLK(+1.08%), Consumer Staples-XLP(+0.69%), Real Estate-XLRE(-0.61%), Energy-XLE (-0.43%)

USBY2Y 4.51%,USBY10Y 3.72%, WTI $71.29/bbl, Gold $1,965.46/oz, DXY 103.34

📍 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นนำโดยหุ้นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง หลังตัวเลขแรงงานชะลอตัว หนุนความคาดหวังของตลาดว่า Fed อาจจะลดการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัว ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังตัวเลข GDP1Q23 เบื้องต้นออกมา -0.1% QoQ 

📍 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในโมเมนตัมที่ดี ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเกิน 20% จากจุดตํ่าสุดในช่วงต.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งหากพิจารณาจากสถิติในอดีตตั้งแต่ปี 1956 พบว่าหลังจากที่ดัชนี S&P500 กลับเข้าสู่ตลาดกระทิง (+20% จากระดับตํ่าสุด) มี 10 จาก 13 ครั้งหรือคิดเป็น 77% ที่ดัชนี S&P500 จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในระยะ 3 เดือน(+2.3%) 6 เดือน (+10%) และ 12 เดือนข้างหน้า(+17.7%)

📍 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวบวกลบสลับกัน ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังเห็นแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่องถึงแม้จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมาดีกว่าคาด โดยตัวเลข GDP1Q23 ญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาด (2.7% vs 1.6%YoY) จากการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% สูงกว่าที่คาดไว้ 0.9%

📍 ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 6 แห่งของจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากหลายประเภทลงเช่น บัญชี Demand deposit accounts ลงจาก 0.25% เป็น 0.20%, บัญชีเงินฝาก 5 ปีลงจาก 2.65% เหลือ 2.50%

📍 การลดดอกเบี้ยดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของธนาคารและเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้คนนำเงินออกไปใช้อุปโภคบริโภคเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมองเป็นสัญญาณที่ดีว่าภาครัฐน่าจะเริ่มทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะอันใกล้

📍 ราคาสัญญานํ้ามันดิบ WTI ปรับตัวลงแรงระหว่างวันก่อนปิดช่วงลบลง รับข่าวลบหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ และอิหร่านกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการระงับการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ อาจมีการผ่อนคลายให้อิหร่านสามารถส่งออกนำ้มันในตลาดโลก

📍 คาดว่าอาจมีนำ้มันจากอิหร่านเข้ามาเพิ่ม 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าและอาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวันภายใน 1 ปีหากผลิตเต็มกำลัง ส่งผลกดดันต่อราคานํ้ามันดิบระยะสั้น แต่เรายังมองโอกาสที่นำัมันจะปรับตัวลงแรงจำกัด เนื่องจากอุปสงค์ที่คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ถดถอยและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง

🔔Outlook & Implication

📍 ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว นักลงทุนรอติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (13/06/23) และการประชุมของเหล่าธนาคารกลางสำคัญ (FED, BOJ, ECB) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 🌟แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพิ่มเติมในกลุ่มหุ้นคุณภาพ (SCBGQUAL) และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี (SCBNDQ/ SCBDIGI) ที่คาดว่าจะ outperform ในสภาวะดอกเบี้ยสูงค้างยาวและเศรษฐกิจอยู่ในช่วงปลายวัฏจักร

📍 ตลาดหุ้นจีน ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์หน้าเช่น New Loans, Outstanding Loan Growth, Total Social Financing, Retail sales, Industrial Production, Fixed Asset Investment ซึ่งเราคาดว่าจะมีความเสี่ยงขาลงจากประเด็นดังกล่าวจำกัด เพราะหากตัวเลขโดยรวมออกมาตํ่ากว่าคาด ก็จะยิ่งสร้างความคาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน ที่สำคัญระดับราคาของตลาดหุ้นจีนทั้ง offshore/onshore อยู่ตํ่ากว่าก่อนที่จีนจะประกาศเปิดเมือง (26/12/22) มองว่าสะท้อนความผิดหวังและปัจจัยลบต่างๆไปมากพอสมควรแล้ว  🌟สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและลงทุนระยะสั้น Trading กองทุน SCBCEH, SCBCHA  ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมกองทุน SCBCHEQ, SCBASHARES รวมถึงกองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน SCBTRAVEL

📍 ตลาดนํ้ามันเรายังมีมุมมองแกว่งตัวในกรอบกว้าง สามารถหาโอกาสลงทุน Trading สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง 🌟แนะนำซื้อเก็งกำไร WTI แถวระดับ $65-75/bbl และขายทำกำไรแถวระดับ $80-85/bbl กองทุนแนะนำ SCBOIL

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก