🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.12%, NASDAQ-0.41%, STOXX600-0.03%, Nikkei225+0.50%, HSCEI-0.28%, CSI300+0.09%, KOSPI+1.21%, NIFTY+0.30%, SET-0.35%, VNINDEX+0.25%, TH Reits+0.12%, SG Reits-0.65%

📊 Sector Return: Utilities-XLU(+1.69%), Real Estate-XLRE(+1.14%), Financial-XLF(+0.25%), Energy-XLE(-1.07%), Communication Services-XLC(-1.31%), Consumer Discretionary-XLY(-1.35%)

📊 USBY2Y 4.60%, USBY10Y 4.21%, WTI $78.74/bbl, Gold $2,114.48/oz, DXY 103.84

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย นักลงทุนรอติดตามถ้อยแถลงของประธาน Fed ต่อสภาคณะกรรมาธิการทางการเงินสหรัฐ และตัวเลขภาคแรงงาน เพื่อบ่งชี้แนวโน้มดอกเบี้ยในอนาคต

📰 แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด ปรับคาดการณ์ GDP สหรัฐ ไตรมาส 1/2567 ลงมาที่ 2.1%QoQ จากเดิม 3%QoQ  หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชน ที่ต่ำกว่าคาดการณ์

⏭️ การคาดการณ์ GDP ที่ขยายตัวลดลง ในขณะที่ภาคแรงงานยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงแบบ Soft landing หนุนความคาดหวัง Fed เริ่มปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นมารับรู้ปัจจัยบวกเหล่านี้ไปค่อนข้างมากแล้ว เราจึงมองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสพักตัว จากตลาดที่ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และมีความเสี่ยงจากแรงเทขายทำกำไร จึงคงมุมมองเป็นกลาง แนะนำ ถือลงทุนต่อ รอตลาดย่อเพื่อสะสมเพิ่ม

📰 การประชุม Opec+ มีมติขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบด้วยความสมัครใจราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นไตรมาส 2/2567 เพื่อหลีกเลี่ยงอุปทานเกินดุล

⏭️ เรามองว่า ราคาน้ำมันดิบอาจไม่ได้ปรับขึ้นแรง ถึงแม้ Opec+ จะยังคงลดกำลังการผลิตลง เนื่องจาก ยังมีแรงกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของกลุ่ม Non-Opec โดยเฉพาะสหรัฐ หลังสิ้นสุดภาวะอากาศหนาวฉับพลัน ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถ Trading เก็งกำไรระยะสั้น ใน WTI บริเวณ $70-80/bbl แต่หากทะลุผ่านแนวต้าน อาจมีโมเมนตัมบวกไปถึงราว $85/bbl

📰 Apple ถูกคณะกรรมาธิการยุโรป(EC) สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1,800 ล้านยูโร จากการครอบงำตลาดแอปพลิเคชั่นเพลงผ่านทาง App Store ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 2%

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตาม sentiment ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อรอติดตามผลการประชุม NPC ในวันนี้

📰 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เดือนม.ค. ขยายตัว 12.9%YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและสูงกว่าคาด (prev.6.1%YoY, est.10.0%YoY) โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5

⏭️ การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนภาคการผลิตและส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่ม Semiconductor  ดังนั้นเรามีมุมมองเชิงบวกในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จากการส่งออกและอุตสาหกรรม semiconductor ที่ฟื้นตัว รวมทั้งได้ปัจจัยบวกจาก Value Up Program ซึ่งเป็นนโยบายที่จูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมีแผนการใช้เงินทุนที่สร้างประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น แนะนำ ถือลงทุนต่อ รอตลาดย่อเพื่อสะสมเพิ่ม

🔰 Outlook & Implication

✅️ สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ซึ่งอาจสร้างความผันผวนและเพิ่มความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นอาจจะพักฐานระยะสั้น สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อและรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ

✅️ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบันยังคงมี Sentiment เชิงบวกจากเเนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต ภาคแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ความชัดเจนของการปรับลดดอกเบี้ย Fed มีมากขึ้น รวมถึงงบการเงินที่ยังคงทำได้ดีกว่าคาดการณ์ แนะนำทยอยสะสมเมื่อตลาดปรับย่อในกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ SCBS&P500A, SCBNDQ(A) ส่วน Active Fund เเนะนำทยอยสะสมกอง SCBDIGI ที่มีการถือครองที่หลากหลาย ผสมผสานทั้ง Big Tech และหุุ้น Tech ขนาดกลาง-เล็ก อีกทั้งยังเปิดโอกาสในการเติบโตจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว เเละการมาของกระเเส AI Spreading อีกด้วย

✅️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก