🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-2.12%, NASDAQ-3.26%, Russell2000-3.09%

STOXX600-0.97%, Nikkei225-0.04%, HSCEI-0.13%, CSI300+0.26%, KOSPI-0.61%, NIFTY+0.00%, SET+0.81%, TH Reits-0.72%, SG Reits-1.00%

📊 Sector Return: Consumer Staples-XLP(+0.70%),  Real Estate-XLRE(+0.23%), Utilities-XLU(-0.14%), Materials-XLB(-2.27%), Energy-XLE(-2.49%),  Technology-XLK(-4.59%)

📊 USBY2Y 3.86%, USBY10Y 3.83%, WTI $70.34/bbl (-4.4%), Gold 2,492.91/oz (-0.3%), DXY 101.83

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังดัชนี ISM Manufacturing PMI ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง

📰 ดัชนี ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ ในเดือนส.ค.ปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 47.2 จาก 46.8 ในเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

⏭️ การที่ภาคการผลิตซึ่งคิดเป็น 10.3% ของเศรษฐกิจยังคงหดตัว ชี้ถึงความอ่อนแอในอุปสงค์และศักยภาพในการเติบโตที่จำกัด ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวและเพิ่มความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในอนาคต

📰 ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะจากจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ นอกจากนี้ การเจรจาแก้ปัญหาในลิเบียมีความคืบหน้า ส่งผลให้อุปทานน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น สร้างแรงกดดันต่อราคาในตลาด

⏭️ การลดลงของราคาน้ำมันสะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก โดยอุปสงค์ที่ต่ำชี้ถึงความต้องการพลังงานที่ลดลง อาจบ่งบอกถึงการเติบโตที่ชะลอตัวในหลายภูมิภาค ในขณะเดียวกัน การเพิ่มอุปทานสร้างโอกาสในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ก็เสี่ยงต่อรายได้ที่ลดลงของประเทศผู้ผลิต การสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก

⏭️ ความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเมื่อดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวใกล้กับจุด High เดิม โดยโฟกัสหลักของนักลงทุนคือ ดัชนีตลาดแรงงานที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์นี้ หากออกมา ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนก็จะกลับมากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย คล้ายกับช่วงต้นเดือนก่อน นอกจากนี้ สถิติเชิงฤดูกาล บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักทำผลงานได้ไม่ค่อยดีในเดือน ก.ย. ช่วง 10 ปีหลังสุด ดังนั้น เราแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในระยะสั้น

📰 ตลาดหุ้นเอเชียยังผันผวนต่อเนื่อง นักลงทุนรอดูตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและแนวโน้มเงินทุนจากต่างชาติ

📰 ดัชนีเงินเฟ้อ CPI เดือนส.ค. ของเกาหลีใต้ชะลอตัวลงเหลือ 2% เมื่อเทียบรายปี จาก 2.6% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อ Core CPI เดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปีชะลอตัวลงเช่นกันที่ 2.1% จาก 2.2% ในเดือนก่อนหน้า

⏭️ เงินเฟ้อที่ลดลงเปิดโอกาสให้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้(BOK)ปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องระวังการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือน โดยเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเกาหลีใต้เนื่องจากการส่งออกชิปที่แข็งแกร่งและ Valuation ของ Kospi ที่น่าสนใจ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงและกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการลดดอกเบี้ย

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นทรงตัวอยู่ได้ แม้ Nvidia จะปรับตัวลงแรงก็ตาม ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นน่าจะเริ่มกระจายตัวมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา (Bull Broadening) ทั้งนี้ระยะสั้นจากสถิติเชิงฤดูกาลและขาดปัจจัยหนุนใหม่ ตลาดอาจผันผวนหรือเลือกพักฐานก่อนได้ แต่หากเกิดขึ้นเรามองเป็นโอกาสทยอยสะสมเพิ่มเนื่องจากสมมุติฐานหลัก “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” รวมถึงกระแส Gen AI ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง จะช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะข้างหน้า

✅️ สำหรับธีมหลักของเราในกรอบลงทุนระยะเวลา 3-6 เดือนได้แก่

⏭️ SCBDIGI และ SCBROBOA กองทุน Active Fund ที่คัดเลือกกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกระแส AI ที่เติบโต โดยมีทั้งกลุ่มผู้พัฒนาและโครงสร้างพื้นฐาน (AI Infrastructure) และกลุ่มผู้นำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (AI Adopters) แนะนำทยอยสะสมในช่วงตลาดย่อตัว โดยอาจพิจารณาดัชนี Nasdaq ประกอบแนวรับแถว 17,370-17,180 จุด

⏭️ SCBNDQ กองทุน Passive Fund ที่อ้างอิงกองทุน Invesco  Nasdaq 100 ETF แนะนำทยอยสะสม โดยพิจารณาดัชนี Nasdaq100 แถวแนวรับ 18,800 จุด

⏭️ SCBSEMI  กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน SMH UCITS ETF ทยอยสะสม โดยพิจารณา SMH UCITS แถวระดับราคา 39-40 USD

⏭️ SCBKEQTG กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน MSCI Korea 25/50 ETF ทยอยสะสมโดยพิจารณา iShares MSCI South Korea ETF แถวระดับราคา 65 USD

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก