🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.06%, NASDAQ-0.76%, STOXX600+0.16%, Nikkei225+0.11%, HSCEI-2.47%, CSI300-1.78%, KOSPI-0.07%, NIFTY-0.99%, SET-0.23%, VNINDEX+0.34%, TH Reits+0.39%, SG Reits+0.99%

📊 Sector Return: Financial-XLF(+1.26%), Energy-XLE(+1.03%), Consumer Staples-XLP(+0.56%), Communication Services-XLC(-0.68%), Technology-XLK(-0.83%), Real Estate-XLRE(-0.93%)

📊 USBY2Y 4.33%, USBY10Y 4.03%, WTI $77.82/bbl, Gold $2,037.01/oz, DXY 103.42

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนตลอดวัน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการซื้อขายเพื่อรอ ติดตามการรายงานงบการเงินไตรมาส 4/66 ของบริษัทในกลุ่ม Big Tech เเละ ผลการประชุมของ Fed ที่กำลังมีขึ้นในวันอังคาร เเละ พุธนี้

📰 IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.1% ในปีนี้ จากครั้งก่อน ที่ 2.9% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน

📰 IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัว 2.1% ในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.5% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะมีการขยายตัว 4.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.2% ขณะที่คาดว่ายูโรโซนและญี่ปุ่นจะขยายตัว 0.9% ในปีนี้

📰 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 114.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 108.0 ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 115.0

📰 สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ (9.026 vs 8.750 ล้านตำเเหน่ง) ด้านตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.621 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่ ตัวเลขการปลดออกจากงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.616 ล้านตำแหน่ง ส่วนการลาออกจากงานโดยสมัครใจลดลงสู่ระดับ 3.392 ล้านตำแหน่ง

📰 บริษัท Microsoft รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/66 เติบโตกว่าคาดทั้งรายได้ เเละกำไรอยู่ที่

(62.02 vs 61.12 พันล้านดอลลาร์) เเละ (2.93 vs 2.78 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ตามลำดับ

📰 บริษัท Alphabet รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/66 เติบโตกว่าคาดทั้งรายได้ เเละกำไรอยู่ที่

(86.31 vs 85.33 พันล้านดอลลาร์) เเละ (1.64 vs 1.59 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ตามลำดับ

📰 เยอรมนีเผยประมาณการเบื้องต้น GDP Q4/66 ติดลบ 0.3% QoQ สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเผชิญภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่อง ราคาน้ำมันสูง และอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอ

📰 ตลาดหุ้นเอเชียปิดบวกลบสลับกันเมื่อวานนี้ หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอติดตามผลการประชุม Fed ในวันอังคาร เเละพุธนี้ ด้านตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงค่อนข้างเเรง ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน

📰 ศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยุติกิจการและขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่สูงถึงประมาณ 3.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

⏭️ ภาคอสังหาฯจีน มีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์อาจจะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่น ๆ ในภาคอสังหาฯ เเละ ธุรกิจการเงินของจีนได้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภาครัฐฯ น่าจะเตรียมออกมาตราการทางการคลังเพื่อฟื้นฟูเเละช่วยเหลือจากผลกระทบดังกล่าว รวมถึงมุ่งผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เเละความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมาให้ได้ในที่สุด เเต่อาจต้องใช้ระยะเวลา เเนะนำสำหรับลูกค้าที่รับความผันผวนได้ สามารถเเบ่งไม้ทยอยสะสม ในจังหวะที่ปรับตัวลงเเรง เพื่อเล่นเทรดดิ้งระยะสั้น หรือทยอยสะสมเพื่อถือลงทุนระยะยาวก็ได้

📰 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 2.47% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2545 หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง และตลาดหุ้นที่ถูกเทขายอย่างหนัก

🔰 Outlook & Implication

✅️สำหรับสัปดาห์หน้ามี event สำคัญทั้งภาพใหญ่อย่างการประชุม Fed และภาพเล็กอย่างการรายงานงบของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งไล่เรียงประกาศตลอดสัปดาห์ ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดการเงินน่าจะมีความผันผวนสูงขึ้น แต่หากตลาดการเงินปรับตัวลง เรายังมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมในธีมลงทุนต่างๆ ที่เราแนะนำ บนสมมุติฐานหลักของเราว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอย, ดอกเบี้ยขาลงและสภาพคล่องทรงตัว

✅️สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลงมาต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่เรามองว่าดัชนี KOSPI เข้าใกล้แนวรับสำคัญแถวระดับ 2,400 จุด ซึ่งหากลงมาไม่หลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสฟื้นตัวกลับ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังน่าสนใจจาก story วัฏจักรกลุ่ม Consumer Semi ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วในปีก่อนและคาดจะฟื้นตัวต่อในปีนี้ โดยที่มีกระแส EdgeAI ช่วยเร่งรอบการเปลี่ยนเครื่อง (replacement cycle) กองทุนแนะนำ SCBKEQTG

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก