Morning Update by SCBAM

Market update

Major Equity Indices: S&P500+0.63%, NASDAQ+1.12%, STOXX600+0.21%, Nikkei225+0.77%, HSCEI+0.91%, CSI300-0.90%, KOSPI+0.89%, NIFTY+1.80%, SET+0.59%, VNINDEX+0.00%, TH Reits+0.40%, SG Reits-0.76%

Sector Return: Consumer Discretionary-XLY(+1.27%), Communication Services-XLC(+0.81%), Technology-XLK(+0.78%), Utilities-XLU(+0.67%), Health Care-XLV(+0.53%), Energy-XLE(-0.37%),

USBY2Y 4.31%, USBY10Y 4.08%, WTI $76.97/bbl, Gold $2,031.41/oz, DXY 103.46

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อ โดยปรับขึ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มพลังงาน จากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลง หลังจากกระทรวงการคลังเปิดเผยคาดการณ์ปริมาณการกู้ยืมเงินในไตรมาส 1 ลดลงจากประมาณการครั้งก่อน

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปรับลดประมาณการการกู้ยืมเงินของรัฐบาลกลางสำหรับไตรมาส 1 ลดลง จากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 816 พันล้านเหรียญฯ มาอยู่ที่ 760 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องเร่งออกพันธบัตรในไตรมาสนี้มีน้อยลง ส่งผลให้ Bond yield ปรับตัวลดลง

ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดกาณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 1/2567 ขยายตัว 3.0%QoQ

การกู้ยืมเงินที่ลดลงของรัฐบาลกลาง ช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลการคลังที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดยังคงมีความเสี่ยงในเรื่องการปรับลดความคาดหวังดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะสั้น ทั้งนี้นักลงทุนติดตามการรายงานงบหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และผลการประชุม Fed ในสัปดาห์นี้ ที่จะช่วยบ่งชี้แนวโน้มตลาดหุ้นที่ชัดเจนขึ้นในระยะถัดไป

ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น มีเพียงตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ดัชนี CSI300 ปิดปรับตัวลง จากความกังวลในภาคอสังหาฯจีน ภายหลังบริษัทเอเวอร์แกรนด์ถูกศาลฮ่องกงสั่งขายสินทรัพย์และปิดกิจการ

ทางการจีนมีแผนที่จะควบรวมบริษัทจัดการสินทรัพย์ของรัฐบาลที่มีปัญหาหนี้สิน ได้แก่ China Cinda Asset Management, China Orient Asset Management, China Great Wall Asset Management เข้ากับบริษัท China Investment Corp ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปสถาบันการเงิน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนพยายามออกมาตรการต่างๆเพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งมาตรการเพิ่มเสถียรภาพให้ตลาดทุน, ห้าม short sell, ห้ามยืมหุ้นบางกลุ่มเพื่อ short sell รวมทั้งการปรับลด RRR แต่เรามองว่ามาตรการเหล่านี้ช่วยให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้การฟื้นตัวในระยะกลาง-ยาว ยังคงต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผลชัดเจนมากกว่านี้

BYD รายงานรายได้สุทธิปี 2023 ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย จากผลกระทบของสงครามราคาในจีน ทั้งนี้ยอดขายยังคงเติบโตได้ดี จากยอดขายในจีนที่เพิ่มขึ้นชดเชยอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลง โดยใน 4Q23 สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากกว่า Tesla เป็นครั้งแรก หนุนจากยอดขายที่เติบโตในรุ่นที่ราคาถูกกว่าในจีน

รายงานข้างต้น ส่งผลให้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ EV ระยะสั้น จากสงครามราคาที่ยังไม่จบ กระทบอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในอุตสาหกรรม ขณะที่ความต้องการในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อน หลังมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ ในหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐฯ เริ่มลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมระยะยาวจากกระแสการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปสู่รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นหนึ่งในธีมที่คาดว่าจะมีการเติบโตสูงในกรอบ ระยะ 1-3 ปีข้างหน้า

เวียดนามรายงานดัชนีเงินเฟ้อ CPI เดือนม.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้ามาที่ 3.37%YoY รวมทั้งตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.ที่ขยายตัวสูงขึ้น 42%YoY เพิ่มขึ้นจากจากเดือนก่อนหน้าที่ 13.1%YoY ค่อนข้างมาก สอดคล้องกับดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวถึง 18.3%YoY (เดือนก่อน 5.8%YoY)

เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในปีนี้ สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวสูงถึง 42%YoY โดยการส่งออกถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม เนื่องจากเศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกเกือบ 100% ดังนั้น เราจึงมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนาม หนุนจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น และได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน รวมทั้ง Valuation อยู่ในระดับไม่แพง

Outlook & Implication

️ สำหรับสัปดาห์หน้ามี event สำคัญทั้งภาพใหญ่อย่างการประชุม Fed และภาพเล็กอย่างการรายงานงบของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งไล่เรียงประกาศตลอดสัปดาห์ ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดการเงินน่าจะมีความผันผวนสูงขึ้น แต่หากตลาดการเงินปรับตัวลง เรายังมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมในธีมลงทุนต่างๆ ที่เราแนะนำ บนสมมุติฐานหลักของเราว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอย, ดอกเบี้ยขาลงและสภาพคล่องทรงตัว

️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

️ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลงมาต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่เรามองว่าดัชนี KOSPI เข้าใกล้แนวรับสำคัญแถวระดับ 2,400 จุด ซึ่งหากลงมาไม่หลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสฟื้นตัวกลับ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังน่าสนใจจาก story วัฏจักรกลุ่ม Consumer Semi ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วในปีก่อนและคาดจะฟื้นตัวต่อในปีนี้ โดยที่มีกระแส EdgeAI ช่วยเร่งรอบการเปลี่ยนเครื่อง (replacement cycle) กองทุนแนะนำ SCBKEQTG

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก