SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 3 เมษายน 2567
Morning Update by SCBAM
Major Equity Indices: S&P500-0.72%, NASDAQ-0.95%, Russell2000-1.80%
STOXX600-0.80%, Nikkei225+0.09%, HSCEI+2.58%, CSI300-0.42%, KOSPI+0.19%, NIFTY-0.04%, SET-0.00%, VNINDEX+0.43%, TH Reits-0.08%, SG Reits-0.51%
Sector Return: Energy-XLE(+1.40%), Utilities-XLU(+0.17%), Communication Services-XLC(-0.16%), Real Estate-XLRE(-1.11%), Consumer Discretionary-XLY(-1.47%), Health Care-XLV(-1.56%)
USBY2Y 4.69%, USBY10Y 4.35%, WTI $85.15/bbl, Gold $2,280.67/oz, DXY 104.82
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงจากเเรงขายทำกำไร ภายหลังนักลงทุนเริ่มกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ด้าน Bond Yield 10 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.35 กดดันตลาดหุ้นเช่นกัน
ราคาน้ำมัน (WTI) ปรับตัวขึ้นกว่า 2% สู่ระดับ $85 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. เป็นผลมาจากความตึงเครียดทางสงครามที่รุนแรงขึ้น หลัง Ukrain ใช้ Drone โจมตีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ใน Russia ส่งผลกดดันต่ออุปทานน้ำมัน
ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวลดลงกว่า 4.9% หลังบริษัทรายงานการส่งมอบรถยนต์ในช่วง 1Q24 เพียง 386,810 คัน ลดลงกว่า 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 457,000 คันอีกด้วย ยอดส่งมอบรถยนต์ที่ต่ำกว่าคาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากการแข่งขันที่สูงในประเทศจีน
Loretta Mester ประธาน Fed สาขา Cleveland คาดว่า การลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่มองว่ายังเร็วเกินไปสำหรับรอบการประชุมเดือน พ.ค.
ความเห็นของประธาน Fed สาขา Cleveland ส่งผลให้ Bond Yield ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุน ปรับลดความน่าจะเป็นที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ลง กดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยในระยะสั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจจะผันผวนมากขึ้น แต่เรามองเป็นจังหวะในการเข้าทยอยสะสมหากตลาดย่อตัว จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง และผลประกอบการบริษัทยังคงเติบโต
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงที่เปิดทำการวันแรกหลังจากหยุดยาว ได้ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นขานรับตัวเลข Manufacturing PMI ของจีนที่ขยายตัว
การที่ดัชนี Manufacturing PMI ของจีนทั้ง (NBS และ Caixin) ปรับตัวขึ้นอยู่เหนือ 50 พร้อมกันครั้งแรกในรอบหลายเดือน สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้น และนับเป็น Sentiment เชิงบวกที่สำคัญในระยะข้างหน้า ทั้งนี้รอติดตามการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้นจีน และ ฮ่องกงให้ฟื้นตัวได้ต่อ
Outlook & Implication
️ สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ทั้งนี้ผลการประชุม Fed ที่ออกมาผ่อนคลายมากกว่าคาดอาจหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่การปรับตัวขึ้นโดยไม่หยุดพักสร้างฐานเลยจะทำให้ตลาดเปราะบางและอ่อนไหวต่อข่าวร้ายมากขึ้นในระยะข้างหน้า สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อได้และรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ
️ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านที่ 2,690 จุด ส่งผลต่อภาพทางเทคนิคดูดีมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจากการฟื้นตัวของ Semiconductor Cycle และ Value Up program ที่คาดว่าจะช่วยปลดล็อคมูลค่าของบริษัทในตลาดเหมือนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ประกอบกับระดับมูลค่าที่ไม่แพง เราจึงแนะนำลงทุนหุ้นเกาหลีใต้ผ่านกองทุน SCBKEQTG
️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก