SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2567
🟣Morning Update by SCBAM
📊 Major Equity Indices: S&P500+0.86%, NASDAQ+0.51%, Russell2000+2.13%
STOXX600+0.13%, Nikkei225+0.90%, HSCEI-1.67%, CSI300-1.16%, KOSPI-0.07%, NIFTY+0.54%, SET+0.26%, VNINDEX+0.07%, TH Reits-0.29%, SG Reits+0.36%
📊 Sector Return: Utilities-XLU(+2.79%), Real Estate-XLRE(+2.53%), Industrial-XLI(+1.61%), Energy-XLE(+0.93%), Communication Services-XLC(+0.52%), Technology-XLK(+0.51%),
📊 USBY2Y 4.57%, USBY10Y 4.19%, WTI $81.35/bbl, Gold $2,194.79/oz, DXY 104.35
📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวาน เริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดเล็กที่ปรับตัวโดดเด่นกว่าตลาดรวม ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) และการแสดงความเห็นของเหล่าคณะกรรมการ Fed เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินเพิ่มเติม
📰 ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.5% นำโดยหุ้น H&M +15.2% หลังรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ CEO คนใหม่ของบริษัทเปิดเผยว่า ผู้ซื้อชื่นชอบ collection ฤดูใบไม้ผลิของ H&M
📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไปไร้ปัจจัยหนุนใหม่ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลับมาปิดบวกอีกครั้งได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่ร่วงลงใกล้แตะระดับ 152 เยนต่อดอลลาร์ อ่อนค่าที่สุดในรอบ 34 ปีหลังจากนายนาโอกิ ทามูระ หนึ่งในกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่าดอกเบี้ยระยะสั้นจะยังคงอยู่ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้ BOJ เพิ่งเริ่มกลับทิศนโยบายด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน
⏭️ เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นระยะสั้น โดยคาดหวังการย่อตัวพักฐานลงบ้างจากมุมมองต่อค่าเงินเยนที่ไม่น่าอ่อนค่าไปมากกว่านี้ แต่ยังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับย่อตัวลงเนื่องจากยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า โดยการปรับขึ้นค่าแรงมากสุดในรอบ 30 ปีน่าจะช่วยหนุนการบริโภคภายในและกำไรบริษัทจดทะเบียน
📰 สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้พบกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจสหรัฐฯ เช่นนาย Stephen A. Schwarzman ผู้บริหารบริษัท Blackstone และนาย Cristiano Amon ผู้บริหารบริษัท Qualcomm ที่กรุงปักกิ่งเพื่อหาทางกอบกู้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและพยายามสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติ
⏭️ เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนตลาดหุ้นจีน แม้ประเมินความเสี่ยงขาลงจำกัด แต่การฟื้นตัวยั่งยืนต่อเนื่องอาจต้องรอพัฒนาการเชิงบวกชัดเจนมากกว่านี้ แนะนำติดตามดัชนีเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และแนวโน้มคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน
📰 สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ(EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล กดดันราคาน้ำมันดิบ WTI ลงเล็กน้อยแต่ยังยืนเหนือ $80/bbl
🔰Outlook & Implication
✅️สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ทั้งนี้ผลการประชุม Fed ที่ออกมาผ่อนคลายมากกว่าคาดอาจหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่การปรับตัวขึ้นโดยไม่หยุดพักสร้างฐานเลยจะทำให้ตลาดเปราะบางและอ่อนไหวต่อข่าวร้ายมากขึ้นในระยะข้างหน้า สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อได้และรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ
✅️ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านที่ 2,690 จุด ส่งผลต่อภาพทางเทคนิคดูดีมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจากการฟื้นตัวของ Semiconductor Cycle และ Value Up program ที่คาดว่าจะช่วยปลดล็อคมูลค่าของบริษัทในตลาดเหมือนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ประกอบกับระดับมูลค่าที่ไม่แพง เราจึงแนะนำลงทุนหุ้นเกาหลีใต้ผ่านกองทุน SCBKEQTG
✅️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก