Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 23 มี.ค. 2023

📈Market update

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงดัชนี S&P500-1.65%, NASDAQ-1.60% นำโดยกลุ่ม Real Estate-XLRE(-3.65%), Financial-XLF(-2.32%) และ Consumer Discretionary -XLY(-2.23%) ตลาดหุ้นยุโรป STOXX600+0.15% ดัชนี VIX index เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22.26 จุดแสดงถึงความผันผวนสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในโซนตํ่า ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่าลงต่อเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 102.18 จุด US Bond Yield ปรับตัวลงโดยอายุ 2 ปีและ 10 ปีอยู่ที่ 3.96% และ 3.45% ตามลำดับ

– ผลการประชุม Fed มีมติขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ตามตลาดคาด ส่งผลให้ระดับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาที่ 4.75-5.00% ส่วน Dot plot มองระดับดอกเบี้ยในปีนี้ ที่ 5.1% (เท่า Dot plot รอบก่อน) แสดงถึงโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 25 bps อีก 1 ครั้งในปีนี้และคงดอกเบี้ยตลอดทั้งปี ส่วนปีหน้ามองดอกเบี้ยระดับ 4.3% (สูงขึ้นกว่า Dot plot รอบก่อนที่ 4.1%) แสดงถึงโอกาสลดดอกเบี้ยลงปีหน้าแต่ลงน้อยกว่าที่คาดไว้รอบก่อน ขณะที่แผนลดขนาดงบดุลยังทำต่อที่เดือนละ $9.5 หมื่นล้านเหรียญตามแผนเดิม

– ถ้อยแถลงของประธาน Fed แสดงความมั่นใจต่อระบบธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและยังเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาสภาพคล่องในระบบธนาคารและเร็วเกินไปที่จะบอกว่านโยบายการเงินควรตอบสนองอย่างไร นอกจากนี้ยังเน้นยํ้าการให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อเป็นหลัก โดยพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหากจำเป็นและไม่คิดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ทางรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงต่อสภาว่าบรรษัทคํ้าประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FDIC) ไม่ได้มีการพิจารณาคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของภาคธนาคาร สร้างความผิดหวังกับตลาดหลังก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากระทรวงการคลังกำลังศึกษาแนวทางให้ FDIC สามารถคุ้มครองเงินฝาก 100% จากที่คุ้มครองไม่เกิน $250,000

– ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานฟื้นตัวขึ้นต่อ Nikkei225+1.93%, KOSPI+1.20%, HSCEI+1.38%, CSI300+0.43%, NIFTY50+0.26%, SET+0.50%, VNI+0.79% หลังนักลงทุนคลายความกังวลวิกฤตสภาพคล่องและ sentiment หนุนจากฝั่งตะวันตกวันก่อนหน้า

– ผลการประชุม Fed ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและ Dot plot ในปีนี้ถือว่าใกล้เคียงกับที่เราคาด แต่อาจดูเข้มงวดกว่าคาดไปบ้างสำหรับมุมมองดอกเบี้ยในปีหน้าที่ลดลงน้อยกว่ารอบก่อน สำหรับถ้อยแถลงของประธาน Fed ออกมาในโทนเข้มงวดกว่าคาดจากการให้นํ้าหนักการควบคุมเงินเฟ้อ โดยอาจคงดอกเบี้ยระดับสูงยาวนานต่อไป (Higher for longer) ส่งผลให้โอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยสูงขึ้นในอนาคต

– ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลงตาม sentiment ฝั่งสหรัฐฯ แต่เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นโดยเฉพาะฝั่งเอเชียจากแนวโน้มการเติบโตทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มทรงตัว/อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนกระแสเงินทุนไหลกลับเข้าฝั่งเอเชีย โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำทยอยสะสม กองทุนหุ้นไทย (SCBDV, SCBSET50) ลุ้นโอกาสฟื้นตัวโดยมีการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมและกองทุนหุ้นจีนที่คาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องจากการเปิดเมือง (SCBASHARES, SCBCHEQ)

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก