Market update

– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกดัชนี S&P500+1.30%, NASDAQ +1.58% นำโดยหุ้นกลุ่มวัฎจักร Energy-XLE(+3.46%), Consumer Discretionary-XLY(+2.76%) และ Financial-XLF(+2.53%) ดัชนี VIX index ปรับตัวลงแรงมาอยู่ที่ 21.38 จุดแสดงถึงความผันผวนที่ลดลง ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่าลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 102.85 จุด US Bond Yield ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยอายุ 2 ปีและ 10 ปีอยู่ที่ 4.18% และ 3.61% ตามลำดับ นักลงทุนผ่อนคลายต่อวิกฤติธนาคารพาณิชย์มากขึ้น หลังผู้กำหนดนโยบายร่วมมือกันช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ขณะที่รายงานตัวเลขยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด (4.58M vs 4.19M) แสดงถึงความต้องการที่อยู่ของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง

– ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานฟื้นตัวขึ้น KOSPI+0.38%, HSCEI+1.24%, CSI300+1.10%, NIFTY50+0.70%, SET+1.40%, VNI+0.91% นักลงทุนคลายความกังวลวิกฤตสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ ติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างปธน.จีน สีจิ้นผิง และปธน.รัสเซีย ปูตินว่าจีนจะช่วยยุติความขัดแย้งในสงครามยูเครนได้หรือไม่ ขณะที่การเมืองฝั่งไทยหลังมีประกาศยุบสภากกต.กำหนดวันเลือกตั้งแล้วเป็นวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2023

Investment Strategy

– ติดตามผลการประชุม Fed (FOMC) คืนนี้ ล่าสุด CME FedWatch Tool มองโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ที่ 88.6% และมอง Terminal rate ที่ระดับ 5.0-5.25% เรามองว่าตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นรับรู้เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปแล้วบางส่วน สิ่งที่ติดตามเพิ่มเติมและตลาดให้ความสำคัญคือ Dot plot และท่าทีของประธาน Fed ต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต

– เราคาดหวังโอกาสการฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดหุ้น หากผลการประชุมเป็นไปตามที่เราคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 25 bps และ Dot plot ไม่เปลี่ยนแปลงจากรอบก่อนทั้งด้านตึงตัวหรือผ่อนคลายมากขึ้นอย่างมีนัยยะ เพื่อแสดงว่า Fed บริหารจัดการอย่างสมดุลระหว่างเสถียรภาพด้านราคา (คุมเงินเฟ้อ) และเสถียรภาพด้านการเงิน (ป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ)

– เรามองตลาดหุ้นมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะฝั่งเอเชียที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯและยุโรปจำกัด โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำทยอยสะสม กองทุนหุ้นไทย (SCBDV, SCBSET50) ดัชนี SET index ที่ตํ่ากว่า 1,600 จุดมีลุ้นโอกาสฟื้นตัวกลับและ กองทุนหุ้นจีนที่คาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องจากการเปิดเมือง (SCBASHARES, SCBCHEQ)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก