SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 22 กันยายน 2566
Market update
Major Equity Indices: S&P500-1.64%, NASDAQ-1.82%, STOXX600-1.30%, Nikkei225-1.37%, HSCEI-1.33%, CSI300-0.90%, KOSPI-1.75%, NIFTY50-0.80%, SET+0.42%, VNINDEX-1.09%
Sector Return: Healthcare-XLV(-0.87%), Utilities-XLU(-1.05%), Communication Services-XLC(-1.23%), Technology-XLK(-1.52%), Consumer Discretionary-XLY(-2.73%), Real Estate-XLRE(-3.47%)
USBY2Y 5.14%, USBY10Y 4.49%, WTI $89.63/bbl, Gold $1,920.02/oz, DXY 105.36
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง หลังผลการประชุม Fed ค่อนข้าง Hawkish กว่าตลาดคาดบ่งชี้สภาวะ Higher for longer ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงตาม sentiment ลบฝั่งสหรัฐฯ ท่ามกลางปัจจัยบวกจากธนาคารกลางอังกฤษที่มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สหรัฐฯ ออกมาตํ่ากว่าคาดและครั้งก่อน (201k vs 225k vs 221k) สะท้อนตลาดแรงงานตึงตัว ขณะที่ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ เดือนส.ค. ออกมาตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนเล็กน้อย (4.04M vs 4.10M vs 4.07M)
บริษัท Microsoft เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในตระกูล Surface computers ได้แก่ Surface Laptop Studio2 และ Surface Laptop Go3 รวมถึงแจ้งความคืบหน้าการให้บริการ Microsoft 365 Copilot ที่ใช้ Generative AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทโดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 พ.ย. กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ก่อน
ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25% หยุดการขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันมาตลอด 14 ครั้งหลังสุด โดยทางธนาคารกลางกล่าวว่าการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาเริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยรายงานอัตราเงินเฟ้อล่าสุดที่ชะลอตัวตํ่ากว่าคาดถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังคงติดตามแนวโน้มดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและอาจจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงยาวนานเพื่อให้ภาระกิจควบคุมเงินเฟ้อบรรลุเป้าหมาย
ข่าวข้างต้นถือเป็นสัญญาณที่ดี สร้างความคาดหวังว่านโยบายการเงินของยุโรปอาจกลับทิศเร็วกว่าตลาดคาด ประกอบกับระดับ valuation ของตลาดหุ้นยุโรปที่ยังถูกเมื่อเทียบตัวเองในอดีต 10 ปีย้อนหลังและถูกกว่ากลุ่มหุ้นตลาดพัฒนาแล้ว ปัจจัยดังกล่าวอาจช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรป outperform ระยะสั้น แต่ภาพระยะกลาง-ยาว ยังคงระมัดระวังจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและทิศทางราคาพลังงานที่สูงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป
ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่สามารถกลับมาปิดบวกสวนภูมิภาค เกิด Technical rebound โดยมีการซื้อกลับในหุ้นทีมีปัจจัยบวกเฉพาะใน กลุ่มค้าปลีก, พลังงานและโรงไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
บริษัท Nio ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ประกาศขาย Smartphone ในระบบ Android หลังซุ่มพัฒนามากว่า 1 ปี โดยคาดหวังให้มีการเชื่อมต่อกันระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและโทรศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า
Outlook & Implication
️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนระยะกลาง 3 เดือน หลังรายงานงบ 2Q23 ที่ออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาดและถูกปรับคาดการณ์กำไรขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ระยะสั้นมีความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจะผันผวนพักฐานต่อหลังผลการประชุม Fed ออกมาโทน Hawkish กว่าตลาดคาดแต่เรายังมองเป็นโอกาสแบ่งไม้ทยอยสะสมลงทุน
️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3 เดือน เรามองโอกาสในการทยอยสะสมช่วงตลาดปรับตัวลงในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และทั่วโลก (SCBNDQ/ SCBDIGI) จากแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง (Disinflation) หนุนวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบรอบและ AI Boom หนุนคาดการณ์กำไรเติบโต
️ กรอบการลงทุนระยะกลาง 3 เดือน SCBEV กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก