🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.97%, NASDAQ+1.39%, Russell2000+1.19%, STOXX600+0.61%, Nikkei225-1.77%, HSCEI+1.04%, CSI300+0.34%, KOSPI-0.85%, NIFTY50+0.13%, SET+1.56%, VNINDEX+0.75%, TH Reits-0.02%, SG Reits+0.68%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+1.65%), Consumer Discretionary-XLY(+1.23%), Communication Services-XLC(+1.14%), Financial-XLF(+0.55%), Materials-XLB(+0.47%), Consumer Staples-XLP(+0.34%)

📊 USBY2Y 4.07%, USBY10Y 3.87%, WTI $74.37/bbl (-3.0%), Gold $2,504.28/oz (-0.1%), DXY 101.89

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องนำโดยหุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก หลังตลาดคลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย และจับตาการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม Jackson Hole วันศุกร์นี้

📰 ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Leading Economic Index: LEI) เดือนก.ค. ปรับตัวลง -0.6% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ -0.4% และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มมีทิศทางชะลอตัวลง

📰 แบบจำลอง GDPNow ล่าสุด คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐฯใน 3Q24 ขยายตัว 2.0% ปรับลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.4% เป็นผลจากการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวลง

⏭️ รายงานข้างต้น บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทำให้มีโอกาสสูงขึ้นที่ Fed จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อตลาดหุ้นโลกในระยะข้างหน้า

📰 บริษัท AMD ได้ตกลงซื้อกิจการ ZT Systems ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์สำหรับลูกค้า Data Center ขนาดใหญ่ มูลค่าราว 4.9 พันล้านเหรียญฯ เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยี data center ให้กับ AMD ในการแข่งขันกับผู้นำด้าน AI อย่าง NVIDIA โดยลูกค้ารายใหญ่ของ AMD สามารถนำโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AMD ไปใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้น AMD เมื่อคืนปรับตัวขึ้นราว 4.5%

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไป โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค จากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกถูกเทขายออกมา โดยเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่วนหนึ่งมาจากข่าวบริษัท Alimentation Couche-Tard ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ในแคนาดา ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าซื้อกิจการ Seven & i Holdings เจ้าของร้าน 7-11 ในญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าการควบรวมดังกล่าวจะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านเยน ทำให้มีความต้องการใช้เงินเยนจำนวนมาก

📰 GDP ไทย 2Q24 ขยายตัว 2.3%YoY สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 2.1%YoY และเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.6%YoY โดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรม การใช้จ่ายรัฐบาล และการส่งออกสินค้าและบริการที่ขยายตัวขึ้น

⏭️ GDP ไทยที่ขยายตัวดีกว่าคาด ช่วยหนุนภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายของภาครัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป ทั้งนี้เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน โดยคาดว่าระยะสั้น SET Index อาจยังมีความผันผวนและต้องติดตามแนวทางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ แต่ระยะกลาง-ยาว คาดว่าเศรษฐกิจที่เห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง และโอกาสที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้ง Valuation ตลาดที่ไม่แพง จะช่วยหนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป

📰 ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงต่ำกว่า $75/bbl หลังจากที่สหรัฐฯผลักดันข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา รวมทั้งกาตาร์เรียกร้องให้อิหร่านระงับการโจมตีอิสราเอล ส่งผลให้ความกังวลด้านอุปทานน้ำมันจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดน้อยลง

🔰 Outlook & Implication

✅️ เรายังคงมองบวกต่อการลงทุนระยะกลาง 3 เดือนขึ้นไปบนสมมุติฐานหลักต่อปัจจัยมหภาคว่าจะเกิด “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” ประกอบกับงบของกลุ่ม AI Semi ที่ส่งสัญญาณว่ากระแส Gen AI จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะข้างหน้า

✅️ สำหรับการลงทุนระยะสั้นตลาดกำลังเผชิญสภาวะการพักฐาน ซึ่งมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น แนะนำกองทุนที่มีความผันผวนต่ำและทนทานได้ดีในภาวะดังกล่าวได้แก่ SCBLEQ และ SCBGQUAL หรืออาจเพิ่มน้ำหนักการกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในทองคำเพิ่มผ่าน SCBGOLD

✅️ สำหรับธีมหลักของเราในกรอบลงทุนระยะเวลา 3-6 เดือนได้แก่ ธีม “AI Spreading” แนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBDIGI, SCBROBOA, SCBSEMI, SCBUSA ส่วนธีม “Asia in Focus” แนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBKEQTG และ SCBVIET

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก