Morning Update by SCBAM

Major Equity Indices: S&P500-1.37%, NASDAQ-2.30%, Russell2000-3.03%

STOXX600-1.23%, Nikkei225-2.49%, HSCEI-0.34%, CSI300-0.66%, KOSPI+0.25%, NIFTY+0.24%, SET+0.14%, VNINDEX-1.96%, TH Reits+1.19%, SG Reits+1.60%

Sector Return: Utilities-XLU(+1.80%), Real Estate-XLRE(+1.55%), Health Care-XLV(+1.02%), Consumer Discretionary-XLY(-2.45%), Energy-XLE(-2.65%), Technology-XLK(-3.73%)

USBY2Y 4.15%, USBY10Y 3.98%, WTI $76.31/bbl (-2.1%), Gold $2,446.26/oz (-0.1%), DXY 104.42

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงนำโดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก สวนทางกลุ่ม Utilities, Real Estate และ Healthcare นักลงทุนกลับมากังวลเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้งหลังดัชนีเศรษฐกิจออกมาชะลอตัวต่ำกว่าคาด

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือนก.ค. (ISM Manufacturing) ออกมาต่ำกว่าคาดและเดือนก่อน (46.8 vs 48.8 vs 48.5) และอยู่ในโซนหดตัวต่ำกว่าระดับ 50 จุดต่อเนื่อง

Initial Jobless Claim ออกมาสูงกว่าคาดและรอบก่อน (249k vs 236k vs 235k) ขณะที่ Continuing Jobless Claim สูงกว่าคาดและรอบก่อนเช่นกัน (1,877k vs 1,860 vs 1,844) สะท้อนตลาดแรงงานชะลอตัวลงมากกว่าคาด

ดัชนีเศรษฐกิจข้างต้น สร้างความกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้สมมุติฐานหลักของเรายังคงมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงแต่ไม่ถึงขั้นถดถอย  ซึ่งเมื่อประกอบกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่กำลังจะเป็นขาลงคาดว่าจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกโดยรวมในระยะถัดไป

Qualcomm รายงานงบดีกว่าคาดทั้งยอดขายและกำไร พร้อมทั้งให้ Guidance 3Q24 ดีกว่าตลาดคาด โดยธุรกิจหลัก Handsets ยอดขายเติบโต +12%YoY จากการขยายตัวของตลาดมือถือ Android ระดับ Premium โดยเฉพาะจากจีนที่เติบโตสูงกว่า +50%YoY ทั้งนี้ CEO บริษัทกล่าวว่าชิป Snapdragon รุ่นล่าสุดเป็นส่วนสำคัญในการประมวลผล AI ใน Smartphone ซึ่งคาดว่าจะเป็น Feature สำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโต Smartphone โดยเฉพาะกลุ่มระดับ Premium นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะกระจายรายได้ไปยังตลาด PC โดยเฉพาะกลุ่ม AI PC

Amazon รายงานยอดขายต่ำกว่าคาดเล็กน้อยแต่กำไรดีกว่าคาด ขณะที่ให้ Guidance รายได้ใน 3Q24 น้อยกว่าคาด จากธุรกิจ E-commerce ที่เกิดการแข่งขันดุเดือดมากขึ้นหลังการเข้ามาของ Temu และ Shein รวมถึงลูกค้าระมัดระวังต่อการใช้จ่ายมากขึ้นส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ต่อผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง ส่วนธุรกิจ Cloud ได้แก่ AWS ยังเติบโตดีกว่าคาด (+19%YoY) และรายได้จากค่าโฆษณาเติบโต +20%YoY แม้จะต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกำไรให้แก่บริษัท ส่วนการลงทุนในเทคโนโลยี AI ยังมีแผนเพิ่มการลงทุนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับครึ่งปีแรกบริษัทลงทุน Capex ราว 3 หมื่นล้านเหรียญฯ

Apple รายงานงบดีกว่าคาดทั้งยอดขายและกำไร โดย iPad รุ่นใหม่เป็นปัจจัยหนุนรายได้สำคัญ (+24%YoY) ขณะที่ฝั่งธุรกิจ Services เติบโตดีกว่าคาดเช่นกัน (+14% YoY) และกำลังมีสัดส่วนต่อรายได้รวมมากขึ้น จาก 26% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็น 28% ในงบล่าสุด สำหรับยอดขายรายประเทศเห็นการหดตัวลงต่ำกว่าคาดในจีน (-6.5%YoY) แต่ได้ประเทศอื่นช่วยชดเชย Rest of Asia Pacific +13.5%YoY, Europe +8.3%YoY, US +6.5%YoY และ Japan +5.7%YoY ทั้งนี้บริษัทเตรียมเปิดตัว iPhone 16 ในไตรมาสปัจจุบัน โดยคาดว่า Apple Intelligence และ Processor ที่เร็วขึ้น จะเป็นจุดขายสำคัญในการผลักดันยอดขาย

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังดัชนีเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ชะลอตัวกว่าคาด สร้างความกังวลต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกันไปไร้ทิศทางชัดเจน

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 5.00% ตามตลาดคาด ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนเดือนก.ค. (Caixin PMI Manufacturing) ออกมาต่ำกว่าคาดและเดือนก่อน (49.8 vs 51.4 vs 51.8) กลับมาอยู่ในโซนหดตัวต่ำกว่าระดับ 50 จุดอีกครั้ง

ดัชนีข้างต้น สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ต่ำกว่าคาดและต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพิ่มเติม ทั้งนี้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจีนต่อไป คาดว่าตลาดจะยังผันผวนต่อไปจากภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนและแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐฯ อาจเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเข้าใกล้การเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ

Outlook & Implication

️ แรงกดดันจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ ประกอบกับระดับราคาตลาดหุ้นที่อยู่โซนสูง ส่งผลให้ตลาดเกิดการพักฐานระยะสั้น ทั้งนี้สถิติการปรับฐานในช่วง Bull market ตั้งแต่ 1990-2023 พบว่าดัชนี S&P500 จะปรับตัวลงเฉลี่ยราว -7% ส่วน NASDAQ100 จะปรับตัวลงเฉลี่ยราว -10%

️ เรายังคงมองบวกต่อการลงทุนระยะกลาง 3 เดือนขึ้นไปบนสมมุติฐานหลักต่อปัจจัยมหภาคว่าจะเกิด “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” ประกอบกับงบของกลุ่ม AI Semi ที่ส่งสัญญาณว่ากระแส Gen AI จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง น่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะข้างหน้า

️ สำหรับการลงทุนระยะสั้นตลาดกำลังเผชิญสภาวะการพักฐาน ซึ่งมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น แนะนำกองทุนที่มีความผันผวนต่ำและทนทานได้ดีในภาวะดังกล่าวได้แก่ SCBLEQ หรืออาจเพิ่มน้ำหนักการกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในทองคำเพิ่มผ่าน SCBGOLD

️ สำหรับธีมหลักของเราในกรอบลงทุนระยะเวลา 3-6 เดือนได้แก่ ธีม “AI Spreading” แนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBDIGI, SCBROBOA, SCBSEMI, SCBNDQ และ SCBUSA ธีม “Asia in Focus” แนะนำทยอยสะสมกองทุน SCBKEQTG และ SCBVIET

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก