Morning Update by SCBAM

Market update

Major Equity Indices: S&P500-1.34%, NASDAQ-1.62%, STOXX600-1.05%, Nikkei225+0.01%, HSCEI-0.28%, CSI300-0.79%, KOSPI+0.10%, NIFTY-0.71%, SET+0.31%, VNINDEX-1.63%, TH Reits-0.24%, SG Reits-1.95%

Sector Return: Energy-XLE(+0.91%), Consumer Staples-XLP(+0.37%), Technology-XLK(-1.03%), Consumer Discretionary-XLY(-2.35%), Industrial-XLI(-2.41%), Materials-XLB(-2.59%)

USBY2Y 5.22%, USBY10Y 4.91%, WTI $88.32/bbl, Gold $1,947.55/oz, DXY 106.57

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงท่ามกลามความกังวลที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสอาจจะยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่ 10Y Bond Yield ระหว่างวันมีการเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปีกดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่อไป

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 93.2% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 41.6% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

P&G เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาสล่าสุด สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีกำไรอยู่ที่ (1.83 vs 1.72 ดอลลาร์/หุ้น) ขณะที่รายได้อยู่ที่ (2.187 vs 2.158 หมื่นล้านดอลลาร์)

Morgan Stanley เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำใรไตรมาส 3/66 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ (1.38 vs 1.28 ดอลลาร์/หุ้น) ขณะที่รายได้ของธนาคารใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ที่ (1.327 vs 1.323 หมื่นล้านดอลลาร์) หลังจากการฟื้นตัวของรายได้ในบางกลุ่มธุรกิจอย่าง Wealth Management และ Investment Banking ยังค่อนข้างน่าเป็นห่วง

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษ อยู่ที่ 6.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนของเมื่อเดือนส.ค.

การเร่งตัวขึ้นของ 10Y Bond Yield รวมถึงปัญหาของสงครามที่กำลังเกิดขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยหลักกดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ ถึงเเม้ว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/66 ส่วนใหญ่จะทำได้ดีกว่าคาดก็ตาม โดยในระยะสั้นตลาดหุ้นจะยังคงผันผวน เเต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ งบการเงินที่กำลังทยอยประกาศในช่วงนี้อีกด้วย เเนะนำกระจายความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุน เพื่อรับมือกับความไม่เเน่นอนในช่วงนี้

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทรงตัวหรือลดลงเมื่อวานนี้ จากความกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและ 10Y Bond Yield สหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น กดดันกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงความกังวลต่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังคงกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในขณะนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า เศรษฐกิจจีน (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจขยายตัวเพียง 4.6% ซึ่งทำให้ตลาดคาดหวังว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ได้

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมจะอัดฉีดเม็ดเงินก้อนใหม่มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งแผนนี้เป็นเสาหลักในนโยบายของปธน. สี จิ้นผิง ในการขยายอิทธิพลของจีนไปยังต่างประเทศ โดยจีนกล่าวว่าขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาต่าง ๆ ทั่วโลก รวมมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

JP Morgan และ Nomura ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน (GDP) สำหรับปี 2566 หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาส 3/2566 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ โดย JP Morgan คาดการณ์ว่า GDP ของจีนจะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน Nomura ได้เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของ GDP จีนปีนี้สู่ 5.1% จากก่อนหน้านี้ที่ 4.8%

Outlook & Implication

️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนโดยจะเน้นไปที่กลุ่มหุ้นคุณภาพสูง ส่วนตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเราชอบตลาดหุ้นเวียดนามและตลาดหุ้นอินเดีย ที่คาดหวังการฟื้นตัวโดดเด่นในภาพระยะ 3 เดือนข้างหน้า

️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่มีความสามารถในการทนทานต่อสภาวะ “higher for longer” ได้แก่ SCBGQUAL (กลุ่มหุ้นคุณภาพทั่วโลก), SCBNDQ/ SCBDIGI (กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกระแส AI Boom) และ SCBPGF (กลุ่มหุ้นคุณค่าและยังมีคุณภาพสูงทั่วโลก)

️ ตลาดหุ้นเวียดนามที่ราคาปรับตัวลงแรงช่วงสั้น แต่เป็นโอกาสสะสมลงทุนลุ้นการฟื้นตัว จากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ระดับมูลค่าอยู่ในโซนถูกเทียบอดีตและภูมิภาค กองทุนแนะนำ SCBVIET(A)

️ ตลาดหุ้นอินเดียมีแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่ง โดยการพึ่งพึงการบริโภคภายในประเทศเป็นจุดแข็งที่จะช่วยให้ทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ราคายังอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้นและระดับมูลค่าอยู่ในโซนที่ไม่แพงจนเกินไป กองทุนแนะนำ SCBINDEQ(A)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก