Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2567

🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.25%, NASDAQ+0.03%, Russell2000+0.16%

STOXX600+0.69%, Nikkei225+1.00%, HSCEI-0.08%, CSI300+0.27%, KOSPI+0.72%, NIFTY+0.39%, SET+0.06%, VNINDEX+0.37%, TH Reits+0.38%, SG Reits+0.28%

📊 Sector Return: Financial-XLF(+0.63%), Industrial-XLI(+0.54%), Energy-XLE(+0.42%), Materials-XLB(-0.11%), Consumer Discretionary-XLY(-0.34%), Communication Services-XLC(-0.59%)

📊 USBY2Y 4.71%, USBY10Y 4.22%, WTI $81.57/bbl (+1.5%), Gold $2,329.46/oz (+0.4%), DXY 105.26

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของบริษัท Nvidia ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ ได้รับประโยชน์จากกระเเสของ AI เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ยังช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ปรับตัวขึ้นอีกด้วย

📰 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาแอตแลนตา ได้เปิดเผยข้อมูลจากแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวในอัตรา 3.1% ใน 2Q/24 ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพและสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะสั้น นอกจากนี้ การเติบโตดังกล่าวยังอาจส่งผลบวกต่อการจ้างงานและการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย

📰 ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.1% MoM ในเดือนพฤษภาคม น้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3%  MoM อัตราการเพิ่มขึ้นที่ช้ากว่าที่คาดไว้ เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงกดดันการใช้จ่ายผู้บริโภคอยู่

⏭️ ยอดค้าปลีกที่อ่อนแอทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะดีขึ้น แต่ราคาที่สูงยังคงกดดันผู้บริโภค ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย อย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ แต่การตัดสินใจสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต

⏭️ ในอนาคต แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Nvidia แต่ก็เริ่มมองหาหุ้นกลุ่มรองมากขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความสำคัญต่อการรักษาโมเมนตัมตลาดนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจช่วยสนับสนุนตลาดในอนาคตได้

📰 ตลาดหุ้นเอเชียปิดบวกลบผสมผสาน โดยตลาดหุ้นอินเดียทำสถิติสูงสุดใหม่จากการคาดการณ์เศรษฐกิจและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่น ก็ปรับตัวขึ้นโดดเด่นเช่นกัน จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ด้านตลาดหุ้นเกาหลีก็ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสองปี โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติและกระแส AI ที่กำลังมาแรง

⏭️ ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะด้าน AI ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน การเติบโตในกลุ่มเทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศช่วยสร้างโมเมนตัมเชิงบวกให้กับตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ ทำให้เอเชียเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนสูงและโอกาสเติบโต

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดมีความชัดเจนมากขึ้นหลังทราบดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯ แม้ผลการประชุม Fed จะออกมาโทนเข้มงวดทั้งนี้เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมลงทุนต่อไป บนสมมุติฐานปัจจัยมหภาคที่เป็น “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” โดยสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าในปีที่ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ถดถอยในระยะ 6 เดือนหลังจากนั้น ตลาดหุ้นโลกมักปรับตัวขึ้นต่อได้ในระยะ 6 เดือนทั้งก่อนและหลัง Fed เริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรก ประกอบกับแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตแข็งแกร่ง ทำให้เราคาดว่าการลดดอกเบี้ยแม้เหลือเพียง 1 ครั้งก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นต่อไป

✅️ สำหรับธีมการลงทุนหลักของเราในกรอบระยะเวลา 3-6 เดือนได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI, SCBSEMI, SCBROBOA, SCBUSA), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)  

📈 Momentum Call สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ

✅️ ตลาดหุ้นจีนพิจารณาดัชนี CSI300 แนวต้านแรก บริเวณ 3,697 จุด ถัดไป 3,854 จุด แต่หากผิดทาง Stop Loss หากดัชนี CSI 300 หลุด 3,500 จุด กองทุนแนะนำ SCBCHAA

✅️ ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 แนะนำ trading กำหนดจุดทำกำไรแรกบริเวณ 550 จุด แต่หากผิดทาง ตั้ง Stop Loss หากหลุดระดับ 500 จุด กองทุนแนะนำ SCBEUEQA

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก