SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 13 กันยายน 2567
Morning Update by SCBAM
Market update
Major Equity Indices: S&P500+0.75%, NASDAQ+1.00%, Russell2000+1.22%, STOXX600+0.80%, Nikkei225+3.41%, HSCEI+0.58%, CSI300-0.43%, KOSPI+2.34%, NIFTY50+1.89%, SET+0.44%, VNINDEX+0.25%, TH Reits+0.63%, SG Reits+0.21%
Sector Return: Communication Services-XLC(+1.87%), Consumer Discretionary-XLY(+1.13%), Energy-XLE(+0.90%), Financial-XLF(+0.23%), Utilities-XLU(+0.22%), Real Estate-XLRE(+0.18%)
USBY2Y 3.64%, USBY10Y 3.67%, WTI $68.97/bbl (+2.5%), Gold $2,557.90/oz (+1.8%), DXY 101.37
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีรับข่าวดีที่บ่งชี้ว่ากระแส AI ยังแข็งแกร่งต่อไป ขณะที่นักลงทุนเริ่มระมัดระวัง ก่อนทราบผลการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า
Initial Jobless Claims สูงกว่าคาดและรอบก่อนเล็กน้อย (230k vs 227k vs 228k) ส่วน Continuing Jobless Claims ออกมาตามคาดแต่สูงกว่ารอบก่อนเพียงเล็กน้อย (1,850k vs 1,850k vs 1,845k)
รายงานข้างต้น บ่งชี้การ layoffs ไม่ได้เร่งตัวจนน่ากังวล สะท้อนตลาดแรงงานที่กำลังชะลอตัวลงเข้าสู่ระดับปกติก่อนเกิดโควิด มากกว่าจะชะลอลงแรงจนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
OpenAI กำลังเจรจาข้อตกลงในการระดมทุนครั้งใหม่มูลค่า 6.5 พันล้านเหรียญฯ โดยคาดว่ากองทุน Thrive Capital ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่รอบก่อนๆ จะเป็นผู้นำการระดมทุนครั้งนี้และกลุ่ม Big Tech ทั้ง Microsoft, Apple และ Nvidia มีรายชื่อเป็นนักลงทุนที่จะระดมทุนรอบใหม่ด้วยเช่นกัน
Jensen Huang CEO ของบริษัท Nvidia แสดงความเห็นเพิ่มเติมที่งาน Communacopia + Technology Conference ซึ่งจัดขึ้นที่ San Francisco มองว่าความต้องการลงทุนใน AI Data Center Infrastructure ทั่วโลก มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญฯ จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนการประมวลและเพิ่มรายได้อย่างมีนัยยะในระยะถัดไป นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำว่าจะเริ่มส่งมอบชิปรุ่นใหม่อย่าง Backwell ได้ภายใน 4Q24 และเร่งปริมาณการส่งมอบอย่างมีนัยยะปีหน้า
ข่าวข้างต้นช่วยตอกย้ำถึงมุมมองเชิงบวกต่อกระแส Gen AI ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่จากการรายงบ Nvidia ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ระดับสูงมาก ส่งผลให้ความผิดหวังเพียงเล็กน้อยก็อาจลงโทษบริษัทในกลุ่มได้แรงในระยะสั้น
ดังนั้นเราจึงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยมองภาพต่อหุ้นในกลุ่ม AI จะปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ระหว่างทางจะผันผวนเพิ่มสูงขึ้นมาก สำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง ลุ้นเก็งกำไรระยะสั้น สามารถ Trading ในกรอบแนวรับแนวต้านที่ให้ไว้ ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาว ยังสามารถ stay invest หรือทยอยสะสมได้แถวแนวรับที่ให้ไว้ แต่ให้คำนึงถึงสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ควรเกิน 10% ของพอร์ตการลงทุนรวม
ผลการประชุม ECB มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 25 bps ตามตลาดคาดและเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ ส่งผลให้ระดับดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 3.50%, ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 3.90% และดอกเบี้ย Refinance อยู่ที่ 3.65% ทั้งนี้ทาง ECB ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงเล็กน้อยตลอด 3 ปีข้างหน้า (ปี 24 ลงจาก 0.9% เป็น 0.8%YoY, ปี 25 ลงจาก 1.4% เป็น 1.3%YoY และปี 26 ลงจาก 1.6% เป็น 1.5%YoY)
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นยุโรป แม้ ECB จะลดดอกเบี้ยและมีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่องก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจยุโปที่ชะลอตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมัน ทั้งนี้หากอ้างอิงสถิติในอดีตของ Goldman Sachs พบว่าช่วงที่ทาง ECB ลดดอกเบี้ย แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอต่อเนื่อง จะไม่ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นยุโรป
ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ตาม sentiment ฝั่งสหรัฐฯ วันก่อนหน้าและอาจหนุนการปรับตัวขึ้นต่อในวันนี้
Outlook & Implication
นักลงทุนจับตาการประชุม Fed ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงต่อขนาดการลดดอกเบี้ยของ Fed ในระยะข้างหน้า จึงอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนสูงขึ้นอีกครั้ง แต่เรามองว่าปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นโลกในระยะกลาง 3 เดือนข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะถดถอยหรือไม่ ซึ่งเรายังคาดว่าจะไม่ถดถอย (Soft Landing) ขณะที่กระแส Gen AI ช่วยเพิ่มการลงทุนและเพิ่ม Productivity แก่บริษัทต่างๆ ซึ่งจะหนุนอัตรากำไรดีมากขึ้นในระยะข้างหน้า ดังนั้นจึงมองความผันผวนหากเพิ่มสูงขึ้นระยะสั้นเป็นโอกาสสะสมลงทุนตามธีมต่อไปนี้
️ สำหรับธีมหลักในการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า เราเน้นกลุ่มหุ้นโลกที่ผันผวนต่ำและคุณภาพสูง ที่คาดว่าจะสามารถทนทานได้ดีกับความผันผวนที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากสถิติเชิงฤดูกาลในเดือนก.ย.-ต.ค โดยเฉพาะในปีที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ
▷ กองทุนแนะนำ SCBLEQA (กองทุนหุ้นโลกที่ผันผวนต่ำ) ซึ่งคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถทนทานได้ดีในช่วงตลาดผันผวน (ลงน้อยกว่าตลาดในช่วงพักฐาน แต่ขึ้นได้ดีใกล้เคียงกันในช่วงตลาดกลับมาฟื้นตัว)
️ สำหรับธีม “AI Spreading” เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูง โดยระยะสั้นอาจยังผันผวนสูงต่อไป แนะนำเริ่มหาจังหวะทยอยลดสัดส่วนหรือขายทำกำไรบางส่วน เมื่อราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมา โดยเน้นเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร (Trading Buy) มากขึ้น
▷ SCBDIGI และ SCBROBOA กองทุน Active Fund ที่คัดเลือกกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกระแส AI ที่เติบโต โดยมีทั้งกลุ่มผู้พัฒนาและโครงสร้างพื้นฐาน (AI Infrastructure) และกลุ่มผู้นำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (AI Adopters) แนะนำ Trading Buy โดยอาจพิจารณาดัชนี Nasdaq ประกอบแนวรับแถว 16,300-16,500 จุด / แนวต้านแถว 17,300-17,500 จุด
▷ SCBNDQ กองทุน Passive Fund ที่อ้างอิงกองทุน Invesco Nasdaq 100 ETF แนะนำTrading Buy โดยพิจารณาดัชนี Nasdaq100 แถวแนวรับ 18,000-18,100 จุด / แนวต้าน 19,200-19,500 จุด
▷ SCBSEMI กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน SMH UCITS ETF แนะนำ Trading Buy โดยพิจารณา SMH UCITS แถวระดับราคาแนวรับ 36-37 USD / แนวต้าน 40-41 USD
▷ SCBKEQTG กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน MSCI Korea 25/50 ETF แนะนำ Trading Buy โดยพิจารณา iShares MSCI South Korea ETF แถวระดับราคาแนวรับ 58-60 USD / แนวต้าน 64-65 USD
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก