🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.42%, NASDAQ+0.38%, Russell2000+0.24%, STOXX600-0.98%, Nikkei225-4.80%, HSCEI+2.88%, CSI300+8.48%, KOSPI-2.13%, NIFTY50-1.41%, SET-0.09%, VNINDEX-0.23%, TH Reits-0.10%, SG Reits-0.76%

📊 Sector Return: Real Estate-XLRE(+0.86%), Energy-XLE(+0.70%), Health Care-XLV(+0.65%), Consumer Staples-XLP(-0.02%), Consumer Discretionary-XLY(-0.23%), Materials-XLB(-0.56%)

📊 USBY2Y 3.64%, USBY10Y 3.78%, WTI $68.17/bbl (-0.0%), Gold $2,634.58/oz (-0.9%), DXY 100.78

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P500 ทำจุดสูงสุดใหม่ และให้ผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกัน 4 ไตรมาส แม้ประธาน Fed จะส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม

📰 ประธาน Fed กล่าวว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตัดสินใจจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ พร้อมทั้งย้ำว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังแข็งแกร่งและช่วยหนุนให้เงินเฟ้อชะลอลงเข้าสู่เป้าหมายที่ 2%ได้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่จำเป็นที่ Fed จะต้องเร่งรีบลดดอกเบี้ย

⏭️ จากคำกล่าวของประธาน Fed มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น แต่ยืนยันว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ หลัง Fed ลดดอกเบี้ยและเศรษฐกิจไม่ถดถอย รวมทั้งความน่าจะเป็นที่ตลาดคาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลง 50 bps ในเดือนพ.ย.ลดลงเหลือเพียง 37% จากเดิม 53% สะท้อนถึงตลาดเริ่มปรับคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยใกล้เคียงกับ Dot plot มากขึ้น

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นต่อเนื่อง หลังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

📰 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเดือน ส.ค. เบื้องต้น หดตัวลง -4.9%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนหน้า จากการผลิตรถยนต์และสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง

📰 ยอดค้าปลีกญี่ปุ่นเดือน ส.ค. ขยายตัว 2.8%YoY สูงกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนหน้า

⏭️ การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลงอย่างมาก สอดคล้องกับการส่งออกที่ชะลอตัวลง อาจกดดันการเติบโตของ GDP ในไตรมาส 3 ขณะที่ยอดค้าปลีกยังเติบโตได้ดี หนุนจากเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามว่าค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจะเพียงพอที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจญี่ปุ่น เราจึงยังคงมุมมองเป็นกลางในตลาดหุ้นญี่ปุ่น จากความไม่แน่นอนของการเติบโตทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของ BOJ รวมทั้งระยะสั้นตลาดหุ้นอาจผันผวนสูงขึ้น จากคุณอิชิบะ ว่าที่นายกฯคนใหม่ เตรียมยุบสภาและประกาศเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งอาจกระทบต่อค่าเงินเยน และการดำเนินนโยบายของ BOJ

📰 ดัชนี Caixin PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการของจีนเดือนก.ย.ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดยเฉพาะภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นโซนหดตัว

⏭️ ข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในภาวะซบเซาก่อนที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้เรามองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศ จึงคาดหวังการออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีน เราจึงคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะมีโมเมนตัมบวกต่อไปในระยะสั้น แต่อาจมีความผันผวนสูงขึ้นจากที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

🔰Outlook & Implication

📈 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลง สอดคล้องกับความเห็นประธาน Fed ที่ย้ำว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและ Fed จะลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีน คาดจะช่วยหนุนการลงทุนในภูมิภาคเอเชียโดยรวม

⏭️ เรายังคาดว่าเศรษฐกิจจะไม่ถดถอย (Soft Landing) ขณะที่กระแส Gen AI ช่วยเพิ่มการลงทุนและ Productivity แก่บริษัทต่างๆ ซึ่งจะหนุนอัตรากำไรบริษัทในระยะข้างหน้า ดังนั้นจึงมองเป็นโอกาสทยอยสะสมตามกองทุนแนะนำดังนี้

▶️ SCBGQUAL/ SCBLEQA (Accumulate Buy) ปรับขึ้นไปตามดัชนีหุ้นโลก แต่คาดว่าจะทนทานได้ดีช่วงตลาดผันผวน ก่อนทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในต้นเดือนพ.ย.

▶️ SCBDIGI/ SCBNDQA/ SCBSEMI/ SCBROBOA/ (Accumulate Buy) Fed ลดดอกเบี้ยแรง แต่ไม่ได้กังวลเศรษฐกิจถดถอย และกระแส AI ที่ยังเติบโตต่อ คาดจะช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นต่อ แม้อาจผันผวนมากขึ้นระหว่างทาง

▶️ SCBKEQTG (Accumulate Buy) ตลาดหุ้นเกาหลีใต้คาดจะได้ประโยชน์จากกระแส AI และ Semi Cycle โดยราคาและระดับมูลค่ายังถูก

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก