Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2566

📈Market update

📍 Major Equity Indices: S&P500+0.24%, NASDAQ+0.36%,STOXX600+0.38%,Nikkei225+0.90%, HSCEI+0.24%, CSI300-0.94%, NIFTY50+0.03%, SET-0.17%,VNINDEX+0.96%

📍 Sector Return: Financial-XLF(+1.26%), Consumer Discretionary-XLY(+1.04%), Energy-XLE(+0.81%), Healthcare-XLV(-0.83%), Consumer Staples-XLP (-0.50%)

📍 USBY2Y 4.48%,USBY10Y 3.66%, WTI $71.74/bbl, Gold $1,963.52/oz, DXY 104.13

📍 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นในวงกว้าง หลังหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กสหรัฐฯ กลับมาปรับตัวได้โดดเด่นกว่ากลุ่ม Big Tech ใน 2 จาก 3 วันทำการหลังสุด หากเทรนนี้ยังดำเนินต่อไปจะถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดหุ้นกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแรงไม่ได้กระจุกตัวจนเกินไป

📍 World Bank ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2023 ขึ้นเป็น 2.1% จากเดิมที่ 1.7% ในคาดการณ์เดือนม.ค. แต่ตํ่ากว่าระดับ 3.1% ในปีก่อน โดยมีการปรับการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 1.1% จาก 0.5% และปรับเพิ่มการเติบโตเศรษฐกิจจีนขึ้นเป็น 5.6% จากเดิมที่ 4.3% ทั้งนี้ World bank ยังมองปัญหาเงินเฟ้อสูงและปัญหาสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก

📍 รายงานดังกล่าวคาดว่าจะช่วยลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอยสหรัฐฯ ในปีนี้ลงและช่วยตอกย้ำแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งน่าจะเห็นภาพการเติบโตชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง

📍 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ยังร้อนแรงต่อเนื่องและตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวโดดเด่นเช่นกันในช่วง 2-3 วันหลังสุด

📍 รายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยออกมาตํ่ากว่าคาด โดยเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนพ.ค. ออกมาตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (0.53% vs 2.70% vs 2.67%YoY) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือนพ.ค. ตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนเช่นกัน (1.55% vs 1.70% vs 1.66%YoY) รายงานดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันการดำเนินนโยบายตึงตัวของแบงค์ชาติเพื่อคุมเงินเฟ้อและเพิ่มความหวังของตลาดว่าแนวโน้มดอกเบี้ยไทยน่าจะใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว

📍 ตลาดหุ้นเวียดนาม VN Index ปรับตัวขึ้นมาทะลุเหนือระดับ 1,100 จุดและกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันอีกครั้ง ส่งผลให้ภาพทางเทคนิคดูดีขึ้นและอาจเป็นการสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศทยอยเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตลาดหุ้นเวียดนามนั้นขับเคลื่อนโดยนักลงทุนรายย่อยเป็นหลักถ้าหากนักลงทุนรายย่อยเริ่มกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นจะช่วยลุ้นการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องได้มากขึ้น

 

Outlook & Implication

🌟ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

ประเด็น Debt Ceiling ที่ได้ข้อสรุปช่วยหนุน sentiment บวกระยะสั้น รวมถึงโมเมนตัมที่ดีของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อ นักลงทุนติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและการประชุมของเหล่าธนาคารกลางสำคัญ (FED, BOJ, ECB) ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นพักฐาน แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพิ่ม แนะนำกลุ่มหุ้นคุณภาพ (SCBGQUAL) และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (SCBNDQ/ SCBDIGI) ที่คาดว่าจะ outperform ในสภาวะดอกเบี้ยสูงค้างยาวและเศรษฐกิจอยู่ในช่วงปลายวัฏจักร

🌟ตัวเลขเศรษฐกิจจีน

โดยรวมเดือนเม.ย. ที่ออกมาชะลอตัวส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเชิงฤดูกาล แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากความคาดหวังที่สูงของนักลงทุน แต่หากพิจารณาจากระดับราคาของตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันทั้ง offshore/onshore พบว่าอยู่ตํ่ากว่าก่อนที่จีนจะประกาศเปิดเมืองแล้ว (26/12/22) ซึ่งเรามองว่าได้สะท้อนความผิดหวังและปัจจัยลบต่างๆไปมากพอสมควรแล้ว น่าสนใจสำหรับการทยอยสะสมลงทุนระยะกลาง-ยาว กองทุนแนะนำ SCBCHEQ, SCBASHARES กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน SCBTRAVEL

🌟ตลาดน้ำมันล่าสุด

WTI ปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ $70/bbl อีกครั้ง จากซาอุดิอาระเบียลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม ซึ่งเรามองว่าราคาสัญญานำ้มันจะแกว่งตัวในกรอบกว้าง และมีความเสี่ยงขาลงจำกัดจากอุปสงค์ที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังหากไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในสหรัฐฯ/ยุโรปและอุปทานที่ตึงตัวต่อเนื่อง เราจึงแนะนำซื้อเก็งกำไร WTI แถวระดับ $65-75/bbl และขายทำกำไรแถวบริเวณ $80-85/bbl สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูง กองทุนแนะนำ SCBOIL

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บลน.เว็ลธ์ เมจิก