Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500-0.20%, NASDAQ-0.07%, STOXX600-0.34%, Nikkei225-0.53%, HSCEI-0.26%, CSI300-0.74%, KOSPI-0.04%, SET-0.29%, VNINDEX-0.69%, TH Reits 0.00%, SG Reits-0.30%

📊 Sector Return: Real Estate-XLRE(+0.36%), Consumer Discretionary-XLY(+0.16%), Utilities-XLU(+0.16%), Energy-XLE(-0.35%), Communication Services-XLC(-0.62%), Healthcare-XLV(-0.63%)

📊 USBY2Y 4.89%, USBY10Y 4.39%, WTI $74.86/bbl, Gold $2,014.13/oz, DXY 103.22

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นมา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน และเข้าสู่โซน overbought ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเช่นเดียวกัน

📰 Bond Yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง 8 bps สู่ระดับ 4.39% ภายหลังการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 2 ปี ที่แสดงถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง

📰 ยอดขายบ้านใหม่เดือน ต.ค. ปรับตัวลดลง 5.6%MoM มาที่ 679,000 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด สอดคล้องกับ inventory ของบ้านใหม่ที่ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ปรับขึ้นมาสูงถึงเกือบ 8% ส่งผลให้ความต้องการซื้อบ้านลดลง

⏭️ จากยอดขายบ้านใหม่ที่ชะลอลง และผลการประมูลพันธบัตรที่ความต้องการยังคงแข็งแกร่ง เพิ่มความคาดหวังว่า Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้เรามองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นเดือน ในระยะสั้นตลาดอาจพักฐาน หรือ แกว่งตัวออกข้างจากแรงขายทำกำไร แนะนำติดตามรายงานเงินเฟ้อ PCE วันที่ 30 พ.ย. หากออกมาตามคาดหรือต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นมีโอกาสกลับมาฟื้นตัว

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวลดลง นำโดยตลาดหุ้นจีน จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจากทางการกำลังตรวจสอบบริษัท Zhongzhi Enterprise Group ที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมากและมีบทบาทเป็นธนาคารเงาให้กับบริษัทอสังหาฯในจีน ทำให้เกิดความกังวลว่าวิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาฯกำลังลุกลามไปยังภาคการเงินของจีน

📰 รายงานส่งออกไทยเดือน ต.ค. ขยายตัว 8%YoY ขยายตัว 3 เดือนติดต่อกัน แต่ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 9%YoY เป็นผลจากการส่งออกโลกที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี นำโดยสินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 10.2%YoY สูงกว่าตลาดคาด และขยายตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

⏭️ การส่งออกและนำเข้าที่เห็นสัญญาณการขยายตัว สะท้อนภาคการผลิตที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว คาดจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย จากแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าที่เติบโตได้ดีสวนทางกับทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และระดับราคาดัชนีตลาดที่ค่อนข้าง laggard รวมทั้ง valuation อยู่ระดับน่าสนใจ

📰 รัฐสภาเวียดนามเตรียมอนุมัติภาษีแบบ Top-up Tax หรือ เก็บภาษีเพิ่มให้อยู่ในอัตราขั้นต่ำ 15% สำหรับบริษัทต่างชาติ ตั้งแต่เดือนม.ค. ปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราภาษีนิติบุคคลที่แท้จริงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 15% ทั้งนี้ เบื้องต้นทางการมีการวางแผนออกมาตรการชดเชยต่างๆให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนิติบุคคลที่เพิ่มขึ้น เช่น บริษัท Samsung, Intel โดยรายละเอียดมาตรการภาษีดังกล่าวจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายหลังการโหวตเห็นชอบในการประชุมวันที่ 29 พ.ย.

⏭️ มาตรการภาษีใหม่อาจจะลดความน่าดึงดูดในการเข้าลงทุนของบริษัทต่างชาติ หากเงินอุดหนุนหรือมาตรการช่วยเหลือไม่เหมาะสมกับอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น เรามองว่าอาจจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นชั่วคราว เนื่องจาก เวียดนามยังมีข้อได้เปรียบหลายอย่างที่จะดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน เช่น มีข้อตกลงทางการค้าเสรีในหลายประเทศ ค่าแรงที่ถูก และโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

🔰 Outlook & Implication

✅️ ระยะสั้นคาดตลาดอาจพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบ หลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง แต่เริ่มขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลาง 1-2 เดือน จากปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลายและสถิติในอดีตเชิงฤดูกาลสนับสนุนการฟื้นตัว

✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจในมุมระดับมูลค่าถูกเมื่อเทียบตัวเองในอดีตและภูมิภาค ขณะที่เศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง หากประเด็นความกังวลเรื่องสภาพคล่องของ Vingroup ไม่ขยายวงและค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่า เราคาดหวังการฟื้นตัวต่อตามตลาดหุ้นโลกแนะนำลงทุนกองทุน SCBVIET โดยดัชนี VN index ที่ตํ่ากว่า 1,100 จุดเป็นระดับที่น่าสะสมแบ่งไม้ลงทุน

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก