SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 25 เมษายน 2567
🟣Morning Update by SCBAM
📊 Major Equity Indices: S&P500+0.02%, NASDAQ+0.10%, Russell2000-0.36%
STOXX600-0.43%, Nikkei225+2.42%, HSCEI+2.45%, CSI300+0.44%, KOSPI+2.01%, NIFTY+0.15%, SET+0.27%, VNINDEX+2.40%, TH Reits-0.02%, SG Reits+1.41%
📊 Sector Return: Consumer Discretionary-XLY(+0.96%), Consumer Staples-XLP(+0.76%), Utilities-XLU(+0.60%), Technology-XLK(+0.46%), Health Care-XLV(-0.31%), Industrial-XLI(-0.80%),
📊 USBY2Y 4.93%, USBY10Y 4.64%, WTI $82.81/bbl, Gold $2,316.17/oz, DXY 105.86
📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัวหลังฟื้นตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง 2 วันติด นักลงทุนติดตามการทยอยรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและดัชเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ
📰 Meta บริษัท social media ชั้นนำของโลกรายงานยอดขายและกำไรดีกว่าคาด โดยธุรกิจหลักอย่าง Advertising เติบโตสูงกว่า 27%YoY สำหรับงบ 1Q24 นอกจากรายได้ที่เติบโตเร่งตัวยังเห็นต้นทุนด้าน sale and marketing ลดลงด้วย ขณะที่จำนวนพนักงานรวมลดลง 10% จากปีก่อนมาอยู่ระดับ 69,329 คน ทั้งนี้บริษัทมีแผนลงทุนในปีนี้ราว 3.5-4.0 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์รอบก่อนที่อยู่ราว 3.0-3.7 หมื่นล้านเหรียญ โดยยังเน้นไปที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเตรียมความพร้อมสำหรับ AI แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงเกือบ 16% ช่วง afterhours จาก Guidance รายได้ในไตรมาสถัดไปที่ออกมาเติบโตราว 18%YoY แต่ต่ำกว่าคาด
⏭️ Meta รายงานออกมามีทั้งบวกและลบผสมกันไป แต่จากความคาดหวังสูงของนักลงทุนที่สะท้อนในราคาทำให้หุ้นมีโอกาสถูกเทขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อมีบางส่วนที่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง อย่างไรก็ตามการเร่งลงทุนใน AI infrastructure ของบริษัทถือเป็นสัญญาณดีต่อกระแส AI ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
📰 Lam Research บริษัทชั้นนำด้าน semiconductor equipment รายงานยอดขายและกำไรดีกว่าคาด รวมถึงให้ positive guidance สำหรับงบ 2Q24 ทั้งนี้ CEO บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อสถานะของบริษัทที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนในอุตสาหกรรมเพื่อรองรับกระแส AI
📰 VISA ผู้ให้บริการด้านระบบการชำระเงินและธุรกรรมทางการเงินชั้นนำของโลก รายงานยอดขายและกำไรดีกว่าคาด โดยเห็นทั้งปริมาณการใช้จ่ายและจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น สะท้อนการบริโภคที่ยังแข็งแกร่งทั้งลูกค้าในสหรัฐฯ (+6%YoY) และทั่วโลก (+8%YoY) ทั้งนี้บริษัทคงการเติบโตตลอดทั้งปีนี้ไว้เท่ากับคาดการณ์รอบก่อน
📰 Tesla ผู้นำอุตสาหกรรม EV รายงานยอดขายและกำไรต่ำกว่าคาด โดยเห็นยอดขายหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนเร่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกให้เร็วขึ้นเป็นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจากเดิมที่คาดจะเป็นครึ่งปีหลังของปีหน้า โดยการผลิตรุ่นใหม่สามารถใช้สายการผลิตเดิมซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
⏭️ แผนดังกล่าวอาจช่วยลดความกังวลหรือสร้างความหวังต่อการฟื้นตัวของบริษัทในปีหน้า แต่สำหรับปีนี้ทางบริษัทก็ยอมรับถึงภาพอุตสาหกรรม EV ที่ชะลอตัวและสงครามราคาที่ดุเดือดได้ส่งผลกดดันอัตรากำไรเบื้องต้นของบริษัท
📰 Kering กลุ่มผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราของฝรั่งเศสรายงานยอดขายรวมดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ส่งสัญญาณตลาดสินค้าหรูชะลอตัว หลัง Brand ชั้นนำในเครืออย่าง Gucci รายงานยอดขายและกำไรที่ชะลอตัวลงมากซึ่งมาจากฝั่งเอเชียโดยเฉพาะจีนที่เห็นอุปสงค์สินค้าหรูของบริษัทลดลง
⏭️ ทั้งนี้รายงานข้างต้นอาจสะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการตลาดสินค้าหรูได้เพียงบางส่วนเท่านั้น การชะลอตัวดังกล่าวอาจหมายถึงความท้าทายในการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเองด้วยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่ นำโดยตลาดหุ้นจีนฮ่องกงที่รักษาโมเมนตัมแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้และตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัวแกร่งกว่าภูมิภาค ตามการฟื้นตัวของตลาดฝั่งสหรัฐฯและดัชนี Dollar ที่เริ่มทรงตัว
🔰 Outlook & Implication
✅️ ระยะสั้นสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด อาจพักเงินในกองทุนตลาดเงิน (SCBMONEY), ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFFPLUS), ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้ผลบวกจากการแข็งค่าของ USD (SCBFST) นอกจากนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ (SCBGOLD) และน้ำมัน (SCBOIL) ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น หากสถานการณ์พลิกกลับ ก็อาจทำให้ราคาผันผวนสูงได้เช่นกัน
✅️ ระยะสั้นสำหรับตลาดหุ้นโลกเน้นกองทุนที่มีความผันผวนต่ำ (SCBLEQ) คาดมีโอกาสปรับตัวลงในระดับที่น้อยกว่าตลาดหุ้นโลกโดยรวมในช่วงตลาดพักฐาน
✅️ ระยะกลาง 3-6 เดือน เรายังมองบวกบนสมมุติฐานหลักที่ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยและ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยทิศทางตลาดหุ้นคาดว่าจะถูกขับเคลื่อนจากการเติบโตกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ดังนั้นยังคงคำแนะนำ Stay Invested ต่อไป แต่สำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากรับความผันผวนสูงระยะสั้นอาจ Wait & See เพื่อรอประเมินสถาณการณ์ไปก่อน แต่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและทนความผันผวนระยะสั้นได้ มองเป็นจังหวะลงทุนเพิ่มในธีมการลงทุนหลักของเราได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก