SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 21 พฤษภาคม 2567
🟣Morning Update by SCBAM
📊 Major Equity Indices: S&P500+0.09%, NASDAQ+0.65%, Russell2000+0.32%
STOXX600+0.18%, Nikkei225+0.73%, HSCEI+0.44%, CSI300+0.35%, KOSPI+0.64%, SET-0.29%, VNINDEX+0.35%, TH Reits+0.19%, SG Reits-0.08%
📊 Sector Return: Technology-XLK(+1.18%), Communication Services-XLC(+0.29%), Industrial-XLI(+0.19%), Consumer Staples-XLP(-0.69%), Consumer Discretionary-XLY(-0.74%), Financial-XLF(-1.37%)
📊 USBY2Y 4.85%, USBY10Y 4.44%, WTI $79.80/bbl, Gold $2,425.31/oz, DXY 104.57
📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวขึ้น โดยดัชนี NASDAQ ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนการประกาศกำไรของบริษัท Nvidia ในวันพุธนี้ โดยนักลงทุนจับตาผลประกอบการ และการให้ guidance ของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมชิป AI ยังมีความต้องการที่สูง
📰 Microsoft เปิดตัวคอมพิวเตอร์ PCs ที่เน้นการใช้งาน AI แบบใหม่ของบริษัท ที่เรียกว่า Copilot+PC โดยมีการใช้ชิปของ Qualcomm เพื่อให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น เช่นเดียวกับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่น เช่น Lenovo, Dell, HP, Acer และ Samsung ที่กำลังจะเปิดตัว PCs ที่เน้นการใช้งาน AI เช่นเดียวกัน
⏭️ จากข่าวดังกล่าว สอดคล้องกับธีม AI Spreading ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนหลักของเราในปีนี้ โดยเรามองว่าการประยุกต์ใช้ Generative AI จะเห็นการกระจายไปยังหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี และ Semiconductor ยังคงมีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง
📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯของจีน ที่ตลาดมองว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพยายามแก้ปัญหาในภาคอสังหาฯ แม้อาจจะยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนในเร็วๆนี้ รวมทั้ง Dollar Index ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียมากขึ้น
📰 PBOC ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปี ที่ 3.45% และ 5 ปี ที่ 3.95% ตามตลาดคาด หลังจากที่ธนาคารกลางจีนมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5%
⏭️ แม้ว่า PBOC จะมีการคงอัตราดอกเบี้ย LPR ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกู้ยืมในภาคอสังหาฯ แต่เรามองว่า มาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯที่ออกมาล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ และลดเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับการซื้อบ้าน น่าจะช่วยเพิ่มความต้องการในการซื้อบ้านของคนจีนมากขึ้น ทั้งนี้เรามองว่ามาตรการต่างๆที่ออกมาอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นภาคอสังหาฯที่ซบเซาให้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่คาดว่าจะช่วยหนุน sentiment เชิงบวกให้กับตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ส่วนการฟื้นตัวระยะกลาง-ยาว อาจจะต้องเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาฯที่ชัดเจนกว่านี้
📰 GDP 1Q67 ของไทย ขยายตัว 1.5%YoY สูงกว่าตลาดที่ 0.8%YoY จากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่สภาพัฒน์ฯ มีการปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงมาที่ 2.5% จากเดิมที่ 2.7% เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวช้า และการลงทุนภาครัฐยังหดตัว
⏭️ เศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้ กนง.ยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ SET index เริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนมากขึ้น ทั้งจากการรายงาน GDP และภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนใน 1Q67 ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้น่าจะเห็นการชะลอการปรับลดคาดการณ์กำไรตลาดหุ้นไทยลง หรือ มีโอกาสถูกปรับเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป จึงยังคงมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่อาจเห็นดัชนีฟื้นตัวได้บ้างในระยะสั้น
🔰 Outlook & Implication
✅️ ภาพตลาดเริ่มกลับมาดูดีมากขึ้นอีกครั้ง หลังดัชนีเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง หนุนภาพ “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” ซึ่งเป็นสมมติฐานหลักของเรา
✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและทนความผันผวนระยะสั้นได้ มองเป็นจังหวะทยอยลงทุนเพิ่ม เนื่องจากภาพระยะกลาง 3-6 เดือน เรายังมองบวกบนสมมติฐานหลักที่ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยและ Fed เริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยทิศทางตลาดหุ้นคาดว่าจะถูกขับเคลื่อนจากการเติบโตกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก สำหรับธีมการลงทุนหลักของเราได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)
📈 Momentum Call สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ
✅️ ตลาดหุ้นจีนพิจารณาดัชนี CSI300 แนวต้านแรก บริเวณ 3,697 จุด ถัดไป 3,854 จุด แต่หากผิดทาง Stop Loss หากดัชนี CSI 300 หลุด 3,500 จุด กองทุนแนะนำ SCBCHAA
✅️ ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 แนะนำ trading กำหนดจุดทำกำไรแรกบริเวณ 550 จุด แต่หากผิดทาง ตั้ง Stop Loss หากหลุดระดับ 500 จุด กองทุนแนะนำ SCBEUEQA
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก