📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.24%, NASDAQ+0.03%,STOXX600+0.26%, Nikkei225+1.24%, HSCEI-0.28%, CSI300-0.11%, KOSPI+0.02%, NIFTY50+0.42%, SET+0.09%, VNINDEX-0.09%

📊 Sector Return: Real Estate-XLRE(+1.10%), Utilities-XLU(+1.02%), Consumer Staples-XLP(+1.01%), Technology-XLK(-0.25%), Materials-XLB(-0.54%)

📊 USBY2Y 4.77%,USBY10Y 3.75%, WTI $75.35/bbl, Gold $1,976.64/oz, DXY 100.28

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่องโดยผลประกอบการบริษัทส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดและนักลงทุนเริ่มลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

📰 ตัวเลขอนุญาตก่อสร้างบ้านสหรัฐฯ ออกมาตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (1.44M vs 1.49M vs 1.496M) และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ตํ่ากว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (1.43M vs 1.48M vs 1.56M)

📰 ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนมิ.ย.ในยุโรปออกมาตามคาด (5.5% vs 5.5% vs 6.1%YoY และ 0.3% vs 0.3% vs 0.0%MoM) ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานออกมาสูงกว่าคาดและเดือนก่อนหน้า (5.5% vs 5.4% vs 5.3%YoY และ 0.4% vs 0.3% vs 0.2%MoM)

⏭️ รายงานข้างต้นยังแสดงถึงเงินเฟ้อยุโรปที่ยังสูงและมีแนวโน้มชะลอตัวลงช้ากว่าทางฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้การดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวน่าจะยังมีต่อไปในยุโรปซึ่งต่างจากสหรัฐฯ ที่คาดว่าใกล้จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว ส่งผลให้เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนในยุโรปแม้ระดับ Valuation ถูกเทียบในอดีต

📰 Earnings Data: อ้างอิงจาก FactSet ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯราว 78% เท่าที่ได้รายงานออกมาแล้วมีกำไรดีกว่าคาด Tesla, ASML, Activision Blizzard, Baker Hughes รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาด ขณะที่ Netflix, IBM รายงานรายได้ตํ่าคาดเล็กน้อยแต่กำไรยังดีกว่าคาด ส่วน Goldman Sachs รายได้ดีกว่าคาดแต่กำไรตํ่าคาดเล็กน้อยจากผลการ write-downs กลุ่ม commercial real estate ขณะที่กลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งรายงานงบออกมาดีกว่าคาดเช่นกันช่วยลดความกังวลวิกฤตธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ

⏭️ หากการรายงานงบที่เหลือยังมีแนวโน้มดีกว่าคาดต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อการปรับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนและช่วยหนุนโมเมนตัมเชิงบวกของตลาดหุ้นต่อไป

📰 บริษัท Tesla รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาด โดยธุรกิจหลักอย่างการจำหน่ายยานยนต์ (83% ของรายได้บริษัท) เติบโตถึง 49% แต่อัตรากำไรลดลงจากการลดราคาเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ราคาหุ้น after hours ปรับตัวลงราว 4% หลัง CEO Elon Musk ไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนในการส่งมอบ Cybertruck และ robotaxi รวมถึงแจ้งว่าการผลิตรถใน 3Q23 อาจชะลอลงเนื่องจากการปิดโรงงานบางส่วนเพื่อปรับปรุงแต่ยังคงเป้าการส่งมอบรถ 1.8 ล้านคันในปีนี้

📰 บริษัท ASML รายงานรายได้และกำไรดีกว่าคาดโดยเติบโต 28%YoY และ 35%YoY ตามลำดับ โดยบริษัทยังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตรายได้ทั้งปีจาก 25% เป็น 30%YoY จากความต้องการที่แข็งแกร่งจากฝั่งจีน ถึงแม้จะถูกควบคุมไม่ให้สั่งซื้อเครื่องฉายแสงที่ทันสมัยที่สุดของบริษัทอย่าง EUV ก็ตาม

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวบวกลบสลับกัน นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังดัชนี Dollar กลับมาแข็งค่าทะลุ 100 จุด ส่วนตลาดหุ้นอินเดียยังทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยปรับบวกขึ้น 5 วันติดต่อกันจากแรงซื้อต่างชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยทรงตัวกังวลการชุมนุมหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

📂 BofA Fund Manager Survey ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของ Fund Manager ทั่วโลกในช่วงวันที่ 6-13 เดือนก.ค. ที่ผ่านมาพบสาระสำคัญดังนี้

1) ภาพ Macro: Fund managers ส่วนใหญ่ราว 48% ของที่สำรวจคาดว่าจะเกิดเศรษฐกิจโลกถดถอยในช่วง 4Q23-1Q24 โดยส่วนใหญ่มองว่าจะเป็นเศรษฐกิจถดถอยไม่รุนแรง (68%) อีกสิ่งที่น่าสนใจคือมีผู้สำรวจมองว่าจะไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอยใน 18 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 19% ส่วนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งใน 12 เดือนข้างหน้าลดลงจาก 80% ของผู้สำรวจในเดือนก.พ. เหลือเพียง 20% เท่านั้นในการสำรวจล่าสุด

2) Cash Level: ระดับเงินสดปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งจาก 5.1% ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 5.3% ซึ่งถือว่าอยู่ในโซนสูงและมีโอกาสที่เงินจะยังไหลเข้าสินทรัพย์ทางการเงินเพิ่มเติมได้อีกเมื่อนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น (ระดับเงินสดเกิน 5% เป็นสัญญาณซื้อ, ระดับเงินสดตํ่ากว่า 4% เป็นสัญญาณขายของ BofA)

3) Fund managers เริ่มกลับมา Overweight ใน Equities, US และ EM มากขึ้นและลดการลงทุนใน Japan, Healthcare, Bonds และ Tech เมื่อเทียบกับการสำรวจเดือนก่อนหน้า แต่หากเทียบค่าเฉลี่ย 20 ปีหลังสุด ผลสำรวจยัง Overweight Bonds, Staples และ Cash ขณะที่ยังคง Underweight Equities, Energy และ Tech

4) ความเสี่ยงที่ Fund managers กังวลที่สุดได้แก่ 1) เงินเฟ้อสูงลากยาวทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินนโยบายตึงตัว (45%) 2) ความเสี่ยงด้านเครดิตธนาคารและเศรษฐกิจโลกถดถอย (18%) 3) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น(15%)

🔰 Outlook & Implication

✅️ ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุน โดยทยอยแบ่งไม้สะสมลงทุน หากตลาดปรับย่อตัวลงจาก special rebalancing ในดัชนี NASDAQ100 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าในกลุ่มหุ้นคุณภาพ (SCBGQUAL) และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี (SCBNDQ/ SCBDIGI) โดยมองว่าพื้นฐานการเติบโตไม่เปลี่ยนและได้แรงหนุนการเติบโตจาก AI Boom และน่าจะ Outperform ตลาดในสภาวะ Peak Rate และ Late Cycle

✅️ กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวและมีการเติบโตที่น่าสนใจในระยะกลาง-ยาว 1) SCBTRAVEL กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนและช่วง High season การท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกคาดช่วยหนุนการเติบโตเชิงฤดูกาล 2) SCBEV  กองทุนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่ของจีนและ Inflation Reduction Act ของสหรัฐฯ ที่ยังดำรงอยู่ต่อไปหลังผ่านการเพิ่มเพดานหนี้

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก