🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.12%, NASDAQ+0.07%, STOXX600-0.72%, Nikkei225-0.28%, HSCEI-1.41%, CSI300-0.97%, KOSPI+0.06%, NIFTY+0.46%, SET+0.01%, VNINDEX+0.27%, TH Reits+1.31%, SG Reits-1.10%

📊 Sector Return: Utilities-XLU(+0.53%), Technology-XLK(+0.50%), Communication Services-XLC(+0.44%), Consumer Discretionary-XLY(-1.03%), Consumer Staples-XLP(-1.23%), Energy-XLE(-1.95%)

📊 USBY2Y 4.84%, USBY10Y 4.44%, WTI $72.90/bbl, Gold $1,980.90/oz, DXY 104.39

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในบางกลุ่มอุตสาหกรรมหลังตลาดปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็วและแรงในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีเศรษฐกิจในฝั่งการผลิตและฝั่งแรงงานบ่งชี้ทิศทางชะลอตัวลงต่อ หนุนความคาดหวัง Fed กลับทิศนโยบายในปีหน้า

📰 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ออกมาสูงกว่าคาดและรอบก่อน (231k vs 220k vs 218k) สูงสุดในรอบ 3 เดือน สอดคล้องกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสะสมที่สูงกว่าคาดและรอบก่อนเช่นกัน (1,865k vs 1,847k vs 1,833k) สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง

📰 ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือนต.ค. หดตัวแรงกว่าคาดและตํ่ากว่าเดือนก่อน (-0.63% vs -0.3% vs 0.1%MoM) แต่ทางดัชนี US Philadelphia Fed Manu. Index หดตัวน้อยกว่าคาดและรอบก่อน (-5.9 vs -9.0 vs -9.0) สะท้อนการผลิตในภูมิภาคที่มีกลุ่ม semiconductor เป็นหลักยังคงหดตัวแต่เริ่มดีกว่าคาด

📰 Walmart รายงานยอดขายและกำไรดีกว่าคาด โดยธุรกิจ grocery และ e-commerce เติบโตแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามบริษัทให้ negative guidance หลังเริ่มเห็นการบริโภคของลูกค้าอ่อนแอลงในช่วงปลายไตรมาส ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงหลังการรายงาน

📰 วุฒิสภาสหรัฐฯ โหวตผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 87 ต่อ 11 ส่งผลให้หลีกเลี่ยงการเกิด Government Shutdown สำเร็จ โดยงบดังกล่าวจะหมดลงในวันที่ 19 ม.ค. 2024

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เห็นแรงเทขายทำกำไรบ้างหลังหลายตลาดหุ้นในภูมิภาคฟื้นตัวแรงช่วงที่ผ่านมา

📰 Alibaba รายงานยอดขายตํ่ากว่าคาดเล็กน้อยแต่กำไรดีกว่าคาด บริษัทประกาศยกเลิกแผนแยกธุรกิจ Cloud Intelligence Group จากสาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีนโยบายห้ามส่งออกชิปที่ใช้ในธุรกิจ AI ไปยังจีน ทำให้บริษัทยากลำบากในการนำเข้าชิปและพัฒนา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Jack Ma เตรียมขายหุ้น Alibaba จำนวน 10 ล้านหุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า 9% ในคืนที่ผ่านมา

📂 BofA Fund Manager Survey ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของ Fund Manager ทั่วโลกในช่วงวันที่ 3-9 เดือน พ.ย. ที่ผ่านมาพบสาระสำคัญดังนี้

1) ภาพ Macro: Fund managers ส่วนใหญ่มองภาพเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2024 ราว 74% จากผู้ทำสำรวจมองว่าเศรษฐกิจจะไม่ถดถอย (Soft + No landing) ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มดอกเบี้ย โดย 76% ของผู้สำรวจมองว่า Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้นแล้วและคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยปีหน้า

2) FMS sentiment ซึ่งเป็นการรวมชุดข้อมูลจาก cash position, equity allocation และ economic growth expectations ปรับตัวขึ้นแรง แสดงถึงผู้สำรวจกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

3) Cash Level: ระดับเงินสดปรับตัวลดลงแรงจาก 5.3% ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 4.7% แสดงถึงสัญญาณซื้อหมดลง (ระดับเงินสดเกิน 5% เป็นสัญญาณซื้อ, ระดับเงินสดตํ่ากว่า 4% เป็นสัญญาณขายของ BofA)

4) Fund managers กลับมา Overweight Bonds มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 บ่งชี้ผู้ทำสำรวจส่วนใหญ่มองเงินเฟ้อ, ดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและกำลังมีแนวโน้มปรับตัวลง  ขณะที่การลงทุนในหุ้นกลับมาเป็น Overweight อีกครั้งนับตั้งแต่ เม.ย. 2022 โดยผู้สำรวจเพิ่ม Position ลงทุนในกลุ่ม Tech, Telecom และ REITs มากที่สุด ขณะที่ลด Position จากกลุ่ม Materials, Industrials และ Banks เมื่อเทียบกับการสำรวจก่อนหน้า

5) ความเสี่ยงที่ Fund managers กังวลที่สุดได้แก่ 1) ความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (31%) 2) เงินเฟ้อสูงลากยาวทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินนโยบายตึงตัว (25%) 3) ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย (23%)

🔰 Outlook & Implication

✅️ ปัจจัยมหภาคเริ่มผ่อนคลายและสถิติในอดีตเชิงฤดูกาลสนับสนุนการฟื้นตัวระยะสั้น อย่างไรก็ตามจากปัจจัยสภาพคล่องโลกที่ยังลดลงต่อเนื่องและระดับมูลค่าตราสารหนี้ที่ดูจูงใจกว่าในเชิงเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น  อาจจำกัดการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกระยะกลาง 3-6 เดือนข้างหน้า เราจึงมองการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกรอบนี้เป็นโอกาสในการปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลมากขึ้น

✅️ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลาง-สูงแนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้โลก SCBINCA ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มักปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลัง Fed จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น, อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีและสำหรับกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะยามที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

✅️ กลุ่มหุ้นคุณภาพสูงที่คาดว่าจะสามารถทนทานในสภาวะดอกเบี้ยสูงและช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้แก่ SCBGQUAL, SCBPGF

✅️ ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจในมุมระดับมูลค่าถูกเมื่อเทียบตัวเองในอดีตและภูมิภาค ขณะที่เศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง หากประเด็นความกังวลเรื่องสภาพคล่องของ Vingroup ไม่ขยายวงและค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่า เราคาดหวังการฟื้นตัวต่อตามตลาดหุ้นโลกแนะนำลงทุนกองทุน SCBVIET โดยดัชนี VN index ที่ตํ่ากว่า 1,100 จุดเป็นระดับที่น่าสะสมแบ่งไม้ลงทุน

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก