Thailand Web Stat

SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 12 กันยายน 2567

🟣Morning Update by SCBAM

📍Market update📍

📊 Major Equity Indices: S&P500+1.07%, NASDAQ+2.17%, Russell2000+0.31%, STOXX600+0.01%, Nikkei225-1.49%, HSCEI-0.73%, CSI300-0.30%, KOSPI-0.40%, NIFTY50-0.49%, SET-0.88%, VNINDEX-0.16%, TH Reits+0.20%, SG Reits+0.51%

📊 Sector Return: Technology-XLK(+3.41%), Consumer Discretionary-XLY(+1.00%), Communication Services-XLC(+0.42%), Financial-XLF(-0.47%), Energy-XLE(-0.93%), Consumer Staples-XLP(-0.93%)

📊 USBY2Y 3.64%, USBY10Y 3.65%, WTI $67.31/bbl (+2.4%), Gold $2,511.76/oz (-0.2%), DXY 101.68

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี มีแรงซื้อกลับมาบ้าง หลังราคาปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า

📰 การดีเบตรอบแรกระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน. สหรัฐฯ ผ่าน ABC News ได้ครอบคลุมหลายประเด็นเช่น ปัญหาเศรษฐกิจ, พลังงาน, นโยบายผู้อพยพ, กฏหมายทำแท้งและนโยบายต่างประเทศ สำหรับประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ Harris พยายามให้ความสำคัญกับกลุ่มคนชนชั้นกลางและนโยบายคืนภาษีหนุนธุรกิจ Startup ขนาดเล็ก ส่วน Trump มุ่งเน้นจัดเก็บภาษีจากต่างประเทศเพื่อปกป้องสหรัฐฯ สำหรับท่าทีต่อจีนของทั้ง 2 ท่านค่อนข้างคล้ายกัน แต่อาจจะแตกต่างกันในเชิงของวิธีการ โดย Trump เหมือนจะเลือกขึ้นภาษีนำเข้าโดยรวม ขณะที่ Harris เหมือนจะเน้นเฉพาะสินค้ายุทธศาตร์สำคัญอย่างกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่า

⏭️ การดีเบตดังกล่าว ในเชิงนโยบายไม่ได้มีอะไรออกมาใหม่เพิ่มเติมอย่างมีนัยยะ แต่เป็นการดูแนวโน้มว่าใครจะมีโอกาสชนะในการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งสื่อหลายสำนักเช่น CNN และ The Washington Post ส่วนใหญ่มองว่า Harris ทำได้ดีกว่าในการดีเบตครั้งนี้

📰 ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ CPI  เดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือนออกมาตามคาดและเท่ากับเดือนก่อน (0.2% vs 0.2% vs 0.2%MoM) และเมื่อเทียบรายปีออกมาตามคาดและต่ำกว่าเดือนก่อน (2.5% vs 2.5% vs 2.9%YoY)

📰 ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI สหรัฐฯ เมื่อเทียบรายเดือนออกมาสูงกว่าคาดและเดือนก่อนเล็กน้อย (0.3% vs 0.2% vs 0.2%MoM) และเมื่อเทียบรายปีออกมาตามคาดและเดือนก่อน (3.2% vs 3.2% vs 3.2%YoY)

⏭️ รายงานดังกล่าวบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ช่วยตอกย้ำว่าเงินเฟ้อไม่ใช่ปัญหาหลักอีกต่อไป โดยเหล่าคณะกรรมการ Fed จะหันไปให้น้ำหนักต่อตัวเลขฝั่งแรงงานมากขึ้นในการพิจารณากำหนดนโยบายการเงินระยะถัดไป

📰 Amazon ประกาศแผนการลงทุนมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านเหรียญฯ สำหรับการลงทุน Cloud/ AI Infrastructure ในอังกฤษ ระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า สอดคล้องไปกับแผนที่ทางบริษัทต้องการขยายการลงทุน Data Centers ไปในฝั่งยุโรปมากขึ้น เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญทั้ง Microsoft และ Alphabet โดยทางผู้บริหารเห็นความต้องการจากเหล่าบริษัทในอังกฤษที่ต้องการประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ และมองการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจาก Gen AI จะยิ่งใหญ่ไม่แพ้รอบการมาของ Internet และ Cloud ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

📰 ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญของอังกฤษ ออกมาต่ำกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ โดย GDP ต่ำกว่าคาดทั้งเทียบรายเดือน (0.0% vs 0.2%MoM) และรายปี (1.2% vs 1.4%YoY) ส่วน Industrial Production เดือนก.ค.หดตัวมากกว่าคาดทั้งเทียบรายเดือน (-0.8% vs +0.3%MoM) และเทียบรายปี (-1.2% vs -0.2%YoY)

⏭️ เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นยุโรป แม้นโยบายการเงินของ ECB มีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่องและระดับ Valuation ที่ไม่แพง แต่ด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจยุโรปที่ดูมีความเปราะบางมากกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการส่งออกและภาคการผลิตที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวมากนัก เป็นแรงกดดันการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในระยะข้างหน้า

📰 ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ แต่คาดว่าน่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวขึ้นดีตาม sentiment ฝั่งสหรัฐฯ เมื่อคืน โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่อ่อนไหวสูงต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ รวมถึงตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีน้ำหนักกลุ่มเทคโนโลยีสูง

🔰 Outlook & Implication

📈 ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนสูงขึ้นระยะสั้น แต่เรามองว่าปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นโลกในระยะกลาง 3 เดือนข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะถดถอยหรือไม่ ซึ่งเรายังคาดว่าจะไม่ถดถอย (Soft Landing) ขณะที่กระแส Gen AI ช่วยเพิ่มการลงทุนและเพิ่ม Productivity แก่บริษัทต่างๆ ซึ่งจะหนุนอัตรากำไรดีมากขึ้นในระยะข้างหน้า ดังนั้นจึงมองความผันผวนหากเพิ่มสูงขึ้นระยะสั้นเป็นโอกาสสะสมลงทุนตามธีมต่อไปนี้

✅️ สำหรับธีมหลักในการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า เราเน้นกลุ่มหุ้นโลกที่ผันผวนต่ำและคุณภาพสูง ที่คาดว่าจะสามารถทนทานได้ดีกับความผันผวนที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากสถิติเชิงฤดูกาลในเดือนก.ย.-ต.ค โดยเฉพาะในปีที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ

▷ กองทุนแนะนำ SCBLEQA (กองทุนหุ้นโลกที่ผันผวนต่ำ) ซึ่งคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถทนทานได้ดีในช่วงตลาดผันผวน (ลงน้อยกว่าตลาดในช่วงพักฐาน แต่ขึ้นได้ดีใกล้เคียงกันในช่วงตลาดกลับมาฟื้นตัว)

✅️ สำหรับธีม “AI Spreading”  เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูง โดยระยะสั้นอาจยังผันผวนสูงต่อไป แนะนำเริ่มหาจังหวะทยอยลดสัดส่วนหรือขายทำกำไรบางส่วน เมื่อราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมา โดยเน้นเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร (Trading Buy) มากขึ้น

▷ SCBDIGI และ SCBROBOA กองทุน Active Fund ที่คัดเลือกกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกระแส AI ที่เติบโต โดยมีทั้งกลุ่มผู้พัฒนาและโครงสร้างพื้นฐาน (AI Infrastructure) และกลุ่มผู้นำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (AI Adopters) แนะนำ Trading Buy โดยอาจพิจารณาดัชนี Nasdaq ประกอบแนวรับแถว 16,300-16,500 จุด / แนวต้านแถว 17,300-17,500 จุด

▷ SCBNDQ กองทุน Passive Fund ที่อ้างอิงกองทุน Invesco  Nasdaq 100 ETF แนะนำTrading Buy โดยพิจารณาดัชนี Nasdaq100 แถวแนวรับ 18,000-18,100 จุด / แนวต้าน 19,200-19,500 จุด

▷ SCBSEMI  กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน SMH UCITS ETF แนะนำ Trading Buy โดยพิจารณา SMH UCITS แถวระดับราคาแนวรับ 36-37 USD / แนวต้าน 40-41 USD

▷ SCBKEQTG กองทุน Passive Fund อ้างอิงกองทุน MSCI Korea 25/50 ETF แนะนำ Trading Buy โดยพิจารณา iShares MSCI South Korea ETF แถวระดับราคาแนวรับ 58-60 USD / แนวต้าน 64-65 USD

 

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก