SCBAM : Morning Update ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2567
🟣Morning Update by SCBAM
📊 Major Equity Indices: S&P500+0.27%, NASDAQ+0.88%, Russell2000-0.36%
STOXX600-0.93%, Nikkei225+0.25%, HSCEI-0.90%, CSI300-0.87%, KOSPI+0.15%, NIFTY+0.02%, SET-0.19%, VNINDEX-0.49%, TH Reits-0.56%, SG Reits-0.74%
📊 Sector Return: Technology-XLK(+1.86%), Communication Services-XLC(+0.19%), Consumer Staples-XLP(-0.05%), Industrial-XLI(-0.57%), Utilities-XLU(-0.61%), Financial-XLF(-1.14%)
📊 USBY2Y 4.83%, USBY10Y 4.40%, WTI $77.90/bbl (+0.2%), Gold $2,317.01/oz (+0.3%), DXY 105.23
📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกลบผสมผสาน ก่อนการประชุม FOMC นำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน และ Tesla ที่ร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่นักลงทุนเริ่มขายทำกำไร เเละเปลี่ยนความสนใจจาก Nvidia ไปยัง Apple หลังจากเพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะ AI Spreading
📰 หุ้นของ Apple ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ที่ชื่อว่า Apple Intelligence ที่ช่วยค้นหาและสรุปข้อความ สร้างภาพต้นฉบับ และแก้ไขรูปภาพอัตโนมัติ พร้อมทั้งร่วมมือกับผู้พัฒนา ChatGPT อย่าง OpenAI เพื่อเพิ่มฟีเจอร์การปรับแต่งหน้าจอและ Control center ใหม่ให้กับระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึง ChatGPT ผ่าน Siri ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดย Apple Intelligence จะเริ่มเปิดตัวในปลายปีนี้ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะใช้ได้ใน iPhone รุ่นใหม่ๆ เท่านั้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเครื่อง
⏭️ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley มองว่าฟีเจอร์ AI ของ Apple จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ iPhone ต้องอัปเกรดเครื่องหนุนการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ากรอบราคาไว้ที่ $216 – $270 ด้านนักวิเคราะห์จาก Bank of America และ Evercore ก็คาดการณ์ว่าจะมีการอัปเกรดเครื่องในรอบหลายปีและมีความมั่นใจในกลยุทธ์ AI ของ Apple มากขึ้น มองว่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในอนาคตได้ สอดคล้องกับธีมการลงทุนหลักของเราอย่าง ธีม AI Spreading ซึ่งจะเริ่มเห็นบริษัทอื่นๆได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยี AI มาใช้มากขึ้น
⏭️ แนวโน้มตลาดค่อนข้างระมัดระวังเนื่องจากนักลงทุนรอติดตามผลการประชุม FOMC การรายงาน Dot Plot เเละการรายงารอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนพ.ค. อย่างใกล้ชิด แม้จะมีสัญญาณของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงก่อนหน้า แต่ความกังวลต่อเเนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 กลับเพิ่มขึ้น โดยMarko Kolanovic นักวิเคราะห์ จาก JPMorgan ระบุว่ามีโอกาสน้อยที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปีนี้ เเละหากจะปรับลง ก็คาดว่าครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. เบื้องต้นตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า Fed อาจมีท่าทีที่เข้มงวดมากขึ้น โดยที่ไม่ได้หมายความว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่จะใช้เวลานานขึ้นในการลดอัตราดอกเบี้ยลง เรามองว่าตลาดหุ้นสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways จนกว่าจะทราบถึงความชัดเจนทั้งเรื่องเงินเฟ้อ เเละทิศทางนโยบายการเงินมากขึ้น
📰 ตลาดหุ้นเอเชียปิดปรับตัวผสมผสาน ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน และการประชุมของธนาคารกลางทั้ง Fed เเละ BOJ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงค่อนข้างมากเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเงินเฟ้อที่กำลังจะออกมา ส่วนตลาดอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความมั่นคงทางการเมืองที่มีมากขึ้น
⏭️ เเนวโน้มระยะสั้น ตลาดหุ้นเอเชียอาจมีความผันผวนต่อ เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอผลการประชุม FOMC ซึ่งเเนวโน้มของนโยบายการเงินในอนาคต จะได้รับอิทธิพลจากรายงานอัตราเงินเห้อ CPI เดือนพ.ค. ที่จะรายงานก่อนหน้าการประชุมอีกด้วย โดยรวมแล้วนโยบายการเงินทั่วโลกและข้อมูลเศรษฐกิจระดับภูมิภาค จะมีผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เเละทิศทางกระเเสเงินลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเอเชีย เเนะนำรอติดตามความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว
🔰Outlook & Implication
✅️ ภาพตลาดกลับมาผันผวนระยะสั้นอีกครั้ง จากความไม่แน่นอนในการลดดอกเบี้ยของ Fed ทั้งนี้เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมลงทุน บนสมมุติฐานปัจจัยมหภาคที่เป็น “Soft Landing” & “Rate Cut Cycle” จะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นต่อไป
✅️ สำหรับธีมการลงทุนหลักของเราในกรอบระยะเวลา 3-6 เดือนได้แก่ “AI Spreading” (SCBDIGI, SCBSEMI, SCBROBOA, SCBUSA), “Asia in Focus” (SCBKEQTG, SCBVIET) และ “Attractive Yield Plays” (SCBINC)
📈 Momentum Call สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ
✅️ ตลาดหุ้นจีนพิจารณาดัชนี CSI300 แนวต้านแรก บริเวณ 3,697 จุด ถัดไป 3,854 จุด แต่หากผิดทาง Stop Loss หากดัชนี CSI 300 หลุด 3,500 จุด กองทุนแนะนำ SCBCHAA
✅️ ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 แนะนำ trading กำหนดจุดทำกำไรแรกบริเวณ 550 จุด แต่หากผิดทาง ตั้ง Stop Loss หากหลุดระดับ 500 จุด กองทุนแนะนำ SCBEUEQA
แหล่งที่มา : SCBAM
แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก