🟣Morning Update by SCBAM

📊 Major Equity Indices: S&P500+0.14%, NASDAQ+0.32%, Russell2000+0.34%

STOXX600-0.61%, Nikkei225+1.08%, HSCEI+0.45%, CSI300-0.08%, KOSPI-0.46%, NIFTY-0.10%, SET+1.86%, VNINDEX+1.00%, TH Reits-0.01%, SG Reits+0.80%

📊 Sector Return: Real Estate-XLRE(+1.27%), Utilities-XLU(+0.55%), Technology-XLK(+0.50%), Energy-XLE(+0.03%), Industrial-XLI(-0.23%), Financial-XLF(-0.57%)

📊 USBY2Y 4.74%, USBY10Y 4.36%, WTI $85.23/bbl, Gold $2,352.78/oz, DXY 104.15

📰 ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดค่อนข้างผสมผสาน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังนักลงทุนรอติดตาม การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพุธนี้ เพื่อบอกแนวโน้มของการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในระยะข้างหน้า

📰 ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังคงรุนแรง และแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ที่คาดจะมีขึ้นกลางปีนี้

⏭️ นักลงทุนกำลังจับตารอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากต่อทิศทางของตลาดหลังจากนี้ เพราะปัจจุบันแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งของ Fed กำลังถูกตั้งคำถาม หลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยหาก CPI รอบเดือนมี.ค. ส่งสัญญาณของการชะลอลงของเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของ Fed ในรอบการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ได้ ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อ

📰 Intel เปิดตัว AI Chip ตัวใหม่ (Gaudi 3) โดยทางบริษัทคาดหวังจะเเย่งชิงส่วนเเบ่งทางตลาดจากบริษัท Nvidia สะท้อนให้เห็นถึงการเเข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นของตลาดผู้ผลิต Chip

📰 Boeing รายงานการส่งมอบเครื่องบินลดลงใน 1Q24 เมื่อเทียบกันกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ที่ (83 vs 130 ลำ) สะท้อนถึงปัญหาด้านความปลอดภัยที่กดดันยอดขาย เเละการส่งมอบเครื่องบิน

📰 ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวกได้เมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย เพื่อรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯซึ่งอาจส่งผลต่อเเนวโน้มของกระเเสเงินลงทุนต่างชาติที่อาจไหลเข้าสู่ตลาดภูมิภาคได้

📰 ญี่ปุ่นรายงาน Consumer Confidence เดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 39.5 ซึ่งนับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งเเต่เดือน พ.ค. 2019 โดยความเชื่อมั่นที่สูงในปัจจุบัน ได้สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นโดดเด่นเมื่อวานนี้

📰 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น ยืนเหนือแนว 1,400 จุด ตอบรับสัญญาณบวก หลังครม. มีมติเห็นชอบ 5 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ คาดจะช่วยหนุน GDP ไทยเติบโต 1.7-1.8%

🔰 Outlook & Implication

✅️ สำหรับตลาดหุ้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจบช่วงการประกาศงบ นักลงทุนอาจหันไปให้ความสำคัญต่อปัจจัยมหภาคมากขึ้น ทั้งนี้ผลการประชุม Fed ที่ออกมาผ่อนคลายมากกว่าคาดอาจหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่การปรับตัวขึ้นโดยไม่หยุดพักสร้างฐานเลยจะทำให้ตลาดเปราะบางและอ่อนไหวต่อข่าวร้ายมากขึ้นในระยะข้างหน้า สรุปคำแนะนำ ถือลงทุนต่อได้และรอจังหวะเข้าลงทุนเพิ่มหากปรับย่อ

✅️ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านที่ 2,690 จุด ส่งผลต่อภาพทางเทคนิคดูดีมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจากการฟื้นตัวของ Semiconductor Cycle และ Value Up program ที่คาดว่าจะช่วยปลดล็อคมูลค่าของบริษัทในตลาดเหมือนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ประกอบกับระดับมูลค่าที่ไม่แพง เราจึงแนะนำลงทุนหุ้นเกาหลีใต้ผ่านกองทุน SCBKEQTG

✅️ สำหรับสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มดอกเบี้ยอย่าง Bonds และ REITs เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้มาใกล้เคียงกับมุมมองของ Fed แล้วดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหนึ่งในธีมหลักของเรา “Attractive Yield Plays” กองทุนแนะนำ SCBDBOND (กองตราสารหนี้ในประเทศ), SCBINC (กองตราสารหนี้โลก) และ SCBPINA (กอง REITs ไทยและสิงคโปร์)

แหล่งที่มา : SCBAM

แหล่งข้อมูล : บล.เว็ลธ์ เมจิก