Morning Brief ประจำวันที่ 17 มี.ค. 66

ตลาดสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนี Dow Jones +1.17% ดัชนี S&P500 +1.76% และดัชนี Nasdaq +2.48% โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มการเงิน หลังจากธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศเตรียมให้ความช่วยเหลือกับธนาคาร First Republic ซึ่ง ช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนจากวิกฤตภาคธนาคาร (Bank crisis) สัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ช่วงของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยทางทีมคาดว่ามีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีมติปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 50 bps ซึ่งเบื้องต้นทางทีมประเมินว่าปัญหาที่เกิด ขึ้นกับธนาคารสหรัฐฯ ที่ปิดตัวลงจะไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง (Contagion effect)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) เนื่องจากการที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ให้ความช่วยเหลือแก่เครดิตสวิสนั้น ได้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตธนาคาร และได้บดบังความวิตกเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 441.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.19 จุด หรือ +1.19%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียและ รัสเซียได้พบปะกันเพื่อหารือแนวทางในการสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมัน ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) หลังจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารส่งสัญญาณคลี่คลายลง ซึ่งทำให้นักลงทุนลด การถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบ เดือนเม.ย. ลดลง 8.30 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 1,923 ดอลลาร์/ออนซ์

What to Watch

ติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนมี.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 64.50 จากเดือนก่อนหน้าที่ 64.70 โดยปัจจุบันทางทีมคาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะ Mild Recession ในช่วงไตรมาสที่ 3

แหล่งที่มา : DAOLINV
แหล่งข้อมูล: บลน.เว็ลธ์ เมจิก