การตั้งค่าคุกกี้

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา

คุกกี้เป็นไฟล์เล็กๆ ใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูล โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของลูกค้า ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ลูกค้าเลือกใช้ ในขณะที่ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ลูกค้าสามารถยอมรับหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ได้ โดยการปรับการตั้งค่าในเบราว์เซอร์... 

Always Active

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ทุกส่วน คุกกี้ประเภทนี้จะถูกจัดเก็บและลบออกหลังจากการท่องเว็บไซต์ของลูกค้า

คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำลูกค้าเมื่อลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ อีกครั้ง สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ จัดเนื้อหาที่เหมาะสำหรับลูกค้าได้ ทักทายลูกค้าด้วยชื่อ และจดจำค่าที่ลูกค้าเลือกได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดผลการทำงาน โดยประมวลผลจาก จำนวนหน้าที่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ ตลอดจนจำนวนลักษณะเฉพาะกลุ่มของผู้เยี่ยมชม โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม และบริษัทฯ จะนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการ และการใช้งานของผู้เยี่ยมชมให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลจำเพาะบุคคลเช่น ชื่อ อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติเท่านั้น

คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการเข้าหน้าเว็บไซต์ จุดเยี่ยมชมและสนใจของลูกค้า ข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ และนโยบายทางการตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า

UOBAM : Daily Update 25 เมษายน 2566

Daily Update 25 เมษายน 2566

– ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

-ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,875.40 จุด เพิ่มขึ้น 66.44 จุด หรือ +0.20%,

– ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,137.04 จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด หรือ +0.09% และ

– ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,037.20 จุด ลดลง 35.25 จุด หรือ -0.29%

– ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดในแดนบวก แต่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์, อัลฟาเบท, อะเมซอน และเมตา แพลตฟอร์มส์

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.4% โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.40% หุ้นอะเมซอน ลดลง 0.70%

– ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX Semiconductor Index) ปรับตัวลง 0.5% เนื่องจากข้อพิพาทระหว่างจีนและหลายประเทศ โดยล่าสุดญี่ปุ่นออกมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัย 23 ชนิดให้กับจีน ซึ่งเป็นการเข้าร่วมกับสหรัฐในการสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงชิปที่ทันสมัย เนื่องจากกังวลว่าจีนอาจใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหาร

– หุ้นเทสลา ร่วงลง 1.5% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์การใช้จ่ายด้านทุนในปี 2566 เพื่อกระตุ้นการผลิต

– หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ (Bed Bath & Beyond) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ทรุดตัวลง 35.7% หลังจากบริษัทตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายมื่อวันอาทิตย์อาทิตย์ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) ภายหลังจากประสบความล้มเหลวในการระดมเงินทุนเพื่อพยุงกิจการ

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.5% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ

– นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., ในวันพุธจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., วันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการเบื้องต้น) ส่วนวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

– นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่าขณะนี้มีบริษัท 90 แห่งในดัชนี S&P500 ที่รายผลประกอบการไตรมาส 1/2566 แล้ว โดยในจำนวนนี้มีเกือบ 77% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

แหล่งที่มา : UOBAM

แหล่งข้อมูล: บลน.เว็ลธ์ เมจิก